ทำเนียบขาวร้าว! ‘มัสก์’ ปะทะ ‘เบสเซนต์’ ปมแต่งตั้งผู้นำกรมสรรพากร

ทำเนียบขาวร้าว! ‘มัสก์’ ปะทะ ‘เบสเซนต์’ ปมแต่งตั้งผู้นำกรมสรรพากร

ศึกในทำเนียบขาวเดือด! ‘อีลอน มัสก์’ ปะทะคารมเดือดกับ ‘สก็อตต์ เบสเซนต์’ ถึงขั้นมีปากเสียงดังกลางทำเนียบ จน ปธน.ทรัมป์ ต้องหันมอง เหตุจากความพยายามของมัสก์ที่จะ ‘ข้ามหัว’ เบสเซนต์ เพื่อแต่งตั้งหัวหน้ากรมสรรพากร

ตามรายงานของสำนักข่าว Axios และ The Independent ระบุว่า “อีลอน มัสก์” หัวหน้ากระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) ที่ยังไม่ได้ถูกรับรองจากสภาคองเกรส และ “สก็อตต์ เบสเซนต์” รัฐมนตรีคลังสหรัฐ มีปากเสียงกันอย่างรุนแรงถึงขั้นตะโกนใส่กัน ภายในระยะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ในทำเนียบขาวได้ยิน

การโต้เถียงกันเกิดขึ้นหลังจากที่มัสก์พยายามดำเนินการโดยตรงกับทรัมป์ “โดยไม่ผ่านรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง” เพื่อให้ทรัมป์แต่งตั้งอดีตเจ้าหน้าที่สรรพากรที่เคยเปิดเผยรายละเอียดภาษีของลูกชายโจ ไบเดน ให้ขึ้นเป็นอธิบดีกรมสรรพากรชั่วคราว จนกว่าคนที่ทรัมป์เลือกให้เป็นผู้นำ จะได้รับการยืนยันจากวุฒิสภา

ก่อนหน้านั้น หนังสือพิมพ์ The New York Times รายงานเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 เม.ย.ว่า เบสเซนต์ และมัสก์ มีความเห็นไม่ลงรอยกันเกี่ยวกับผู้ที่จะเป็นผู้นำกรมสรรพากร แต่การปะทะกันแบบเผชิญหน้าอย่างดุเดือดเมื่อวันก่อนหน้านั้น ยังไม่เคยมีรายงานมาก่อน

“พวกเขาไม่ได้ลงไม้ลงมือกันในห้องทำงานรูปไข่ แต่ประธานาธิบดีเห็นเหตุการณ์นั้น และจากนั้นพวกเขาก็ยังคงปะทะกันต่อที่โถงทางเดิน และนั่นคือ ตอนที่พวกเขาทะเลาะกันอีกครั้ง” พยานคนแรกกล่าว

พยานคนที่สอง กล่าวว่า “เป็นฉากที่น่าตกใจมาก มันดัง และผมหมายถึง ดังจริงๆ”

ด้านแคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวตอบคำถามเกี่ยวกับการทะเลาะกันด้วยเสียงดังนี้ เธอไม่ได้ปฏิเสธเหตุการณ์ แต่กล่าวว่า ความเห็นไม่ลงรอยกันเป็นเรื่องปกติในการกำหนดนโยบาย ส่วนตัวแทนของมัสก์ และเบสเซนต์ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น

ความขัดแย้งของทั้งสองเริ่มก่อตัวขึ้น เมื่อเบสเซนต์วิพากษ์วิจารณ์บทบาทมัสก์ต่อกระทรวงต่างๆ รวมถึงให้สัญญาการลดงบประมาณรัฐด้วย DOGE ที่เกินจริง 

ด้านมัสก์ตอบโต้โดยเรียกเบสเซนต์ว่าเป็น “สายลับของนักการเงินจอร์จ โซรอส” และกล่าวหาว่า เขาบริหารกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ล้มเหลว ซึ่งมัสก์ยังเคยโจมตีโซรอสว่า อยู่เบื้องหลังให้ทุนกลุ่มประท้วงรถยนต์ Tesla 

อันที่จริงมัสก์ไม่ได้ทะเลาะเฉพาะเบสเซนต์ เขายังเคยขัดแย้งกับ “มาร์โก รูบิโอ” รัฐมนตรีต่างประเทศ ในเรื่องที่มัสก์ตำหนิรูบิโอว่า ยังเลิกจ้างพนักงานของกระทรวงไม่มากพอ และเรียก “ปีเตอร์ นาวาร์โร” ที่ปรึกษาการค้าของทรัมป์เรื่องขึ้นภาษีการค้าต่อทั่วโลกว่า โง่เหมือนอิฐ

เดิมทีมัสก์ และเบสเซนต์มีจุดเริ่มต้นที่ไม่ราบรื่นในช่วงการเปลี่ยนผ่านประธานาธิบดี โดยมัสก์พยายามล็อบบี้อย่างหนักเพื่อให้ “ฮาวเวิร์ด ลัทนิค” ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง แต่ในที่สุด ทรัมป์ก็เลือกเบสเซนต์แทน และเลือกลัทนิคให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์

เมื่อทรัมป์ขึ้นเป็นประธานาธิบดี มัสก์กับเบสเซนต์ก็ขัดแย้งกันต่อเรื่องว่าจ้างบุคลากรของกระทรวงการคลัง

“นี่ไม่ใช่การต่อสู้เรื่องถูกหรือผิด เป็นเรื่องของการควบคุม” เจ้าหน้าที่บริหารอีกคนที่คุ้นเคยกับความขัดแย้งกล่าว"

แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้ระบุกับสำนักข่าว Axios ว่า รากเหง้าของความตึงเครียดระหว่าง มัสก์กับเบสเซนต์ส่วนหนึ่งมาจาก “บุคลิกของพวกเขา”

“มัสก์” เป็นผู้นำธุรกิจที่แหวกแนว และเป็นไอคอนที่ทำเร็ว เปลี่ยนเร็ว และพร้อมทำลายสิ่งต่างๆ ที่เห็นว่าล้าหลัง รวมถึงเป็นเซเลบในโซเชียลมีเดีย 

ขณะที่ “เบสเซนต์” เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการเงินที่สุขุม และสงวนท่าที ซึ่งสบายใจกับการอธิบายความเคลื่อนไหวของตลาดมากกว่าการปรากฏตัวตามข่าว 

“สิ่งที่ทำให้หลายคนประหลาดใจคือ เบสเซนต์เป็นคนสุภาพมาก แต่เขาก็มีขีดจำกัดด้านความอดทน และเขาก็สามารถคำรามได้” พันธมิตรของเบสเซนต์ กล่าว

“เบสเซนต์ทนมัสก์ไม่ได้” “นี่เป็นความรู้สึกที่กินลึก และยาวนาน แต่เขาก็แสดงท่าทีในความเป็นผู้ใหญ่เกี่ยวกับเรื่องนี้”

 

 

อ้างอิง: independentaxios

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์