ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐไหลลงต่อ หวั่นเงินเฟ้อพุ่งสูง

ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐไหลลงต่อ หวั่นเงินเฟ้อพุ่งสูง

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งหนึ่ง เงินเฟ้อคาดการณ์พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1991 ผวาภาษีศุลกากร

บลูมเบิร์ก รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งหนึ่งในหลายครั้งที่ผ่านมา  และคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อระยะยาวพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1991(2534) เนื่องมาจากความกลัวต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจจากกำแพงภาษีศุลกากรของทรัมป์

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเมษายนลดลงเหลือ 52.2 จาก 57 เมื่อเดือนก่อน ตามข้อมูลของมหาวิทยาลัยมิชิแกน แม้ว่าจะดีขึ้นเล็กน้อยจากมาตรวัดเบื้องต้นที่ 50.8 แต่ตัวเลขล่าสุดถือเป็นระดับต่ำสุดเป็นอันดับสี่ในข้อมูลย้อนหลังไปถึงช่วงปลายทศวรรษ 1970s

ข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (25 เม.ย.) แสดงให้เห็น ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นในอัตราต่อปีที่ 4.4% ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าราคาสินค้าและบริการจะเพิ่มขึ้นในอัตรา 6.5% ในปีหน้า แม้ว่าจะลดลงจากค่าเบื้องต้นที่ 6.7% แต่ความคาดหวังด้านราคาในปีหน้าก็ยังคงเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1981

การสำรวจเริ่มในวันที่ 25 มีนาคมและสิ้นสุดในวันที่ 21 เมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศระงับการขึ้นภาษีศุลกากรสำหรับคู่ค้าของสหรัฐฯ หลายสิบรายเป็นเวลา 90 วัน นอกจากนี้ เขายังปรับขึ้นภาษีสินค้าจีนเป็น 145% ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงมาก

  • กังวลภาษีศุลกากรกระทบเศรษฐกิจ ตลาดแรงงาน

นอกจากจะทำให้เกิดความกลัวต่อเงินเฟ้อที่สูงขึ้นแล้ว นโยบายการค้าของรัฐบาลทรัมป์ยังทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและตลาดแรงงานมากขึ้น ดัชนีความคาดหวังของมหาวิทยาลัยร่วงลงมาอยู่ที่ 47.3 ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2022 เนื่องจากผู้ตอบแบบสอบถาม 60% ระบุได้รับผลกระทบจากภาษีศุลกากร

โจแอนน์ ซู ผู้อำนวยการการสำรวจกล่าวในแถลงการณ์ว่า “ความคาดหวังต่อตลาดแรงงานยังคงดูหม่นหมอง” “สิ่งที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่าสำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจก็คือ ผู้บริโภคคาดการณ์ว่ารายได้ของตนเองจะเติบโตช้าลงในปีหน้า หากรายได้ไม่แข็งแกร่งเพียงพอ การใช้จ่ายก็ไม่น่าจะคงแข็งแกร่งต่อไปท่ามกลางสัญญาณเตือนมากมายที่ผู้บริโภครับรู้”

ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าความคาดหวังของผู้บริโภคลดลงในวงกว้างจากกลุ่มประชากร ระดับรายได้ และความเชื่อทางการเมือง นอกจากนี้ ความคาดหวังต่อเศรษฐกิจ รายได้ ตลาดหุ้น และสภาพการซื้อบ้านก็แย่ลงจากเดือนก่อน

  • กลัวรายได้ในอนาคตถูกกระทบ

ผู้ตอบแบบสอบถามประมาณสองในสามเห็นว่ารายได้ที่ปรับตามอัตราเงินเฟ้อของตนจะลดลงในปีหน้า และเกือบเท่าๆ กันที่คาดว่าอัตราการว่างงานจะเพิ่มสูงขึ้น

ผู้นำบริษัทต่างๆเตือนว่าผู้ซื้อจะประสบปัญหาทางการเงินมากขึ้นในอนาคต เนื่องจากบริษัทต่างๆ ส่งต่อภาระภาษีศุลกากรและต้นทุนสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น บริษัท Procter & Gamble Co ประมาณการเมื่อวันพฤหัสบดีว่าการจัดเก็บภาษีในปัจจุบันและที่เสนออาจเพิ่มต้นทุนประจำปีของบริษัทได้ระหว่าง 1,000 - 1,500 ล้านดอลลาร์ ยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าอุปโภคบริโภคมีแผนที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยส่วนหนึ่งคือการขึ้นราคาสินค้า

“ภาษีศุลกากรทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ” จอน มูลเลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ P&G กล่าวกับทีวีซีเอ็นบีซี

ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ความคาดหวังลดลงในทุกกลุ่มการเมือง สำหรับพรรคเดโมแครตและผู้ที่เป็นอิสระจากพรรคการเมือง ความคาดหวังลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนความคาดหวังของพรรครีพับลิกันลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน

มาตรวัดสภาวะปัจจุบันลดลง 4 จุดจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ 59.8 แต่ดีขึ้นจากค่าเบื้องต้นที่ 56.5 เนื่องจากการระงับภาษีศุลกากร