เริ่มแล้ว! พิธีปลงพระศพ 'โป๊ปฟรานซิส' ผู้นำทั่วโลกเข้าร่วม
เริ่มแล้ว! พิธีปลงพระศพ 'โป๊ปฟรานซิส' เป็นไปอย่างเรียบง่าย ก่อนทำพิธีฝังในกรุงโรม ผู้นำทั่วโลกเดินทางเข้าร่วมพร้อมเพรียง
พิธีปลงพระศพ "สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส" ได้เริ่มขึ้นแล้วเมื่อเวลา 10.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 15.00 น. วันเสาร์ที่ 26 เมษายนนี้ตามเวลาในประเทศไทย ณ จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ นครรัฐวาติกัน โดยเป็นพิธีกลางแจ้งสำหรับรองรับผู้คนจำนวนมากตั้งแต่ระดับประมุขแห่งรัฐจนถึงประชาชนผู้ศรัทธาที่มาร่วมกันส่งพระศพของพระองค์เป็นครั้งสุดท้าย
บีบีซีรายงานว่า กระบวนการในวันนี้เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 08.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น เมื่อบรรดาอาร์คบิชอบและบิชอบมารวมตัวกันที่ปีกคอนสแตนติน มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ที่ซึ่งบรรดาบาทหลวงคาทอลิกจะมารวมตัวกัน จากนั้นบรรดาผู้ร่วมงานจะทยอยเข้ามา
เวลา 10.00 น. พิธีจะเริ่มขึ้นมีการนำโลงพระศพมาวางที่จัตุรัสหน้ามหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ พิธีนี้จะนำโดยพระคาร์ดินัล "จิโอวานนี บัตติสตา เร" หัวหน้าคณะพระคาร์ดินัล ซึ่งจะเป็นผู้นำการทำพิธีมิซซาและสวดส่งดวงวิญญาณ ก่อนที่จะมีการเคลื่อนพระศพไปฝังที่ "มหาวิหาร ซานตา มารีอา มาจอเร" ในกรุงโรม
ภายในงานมีการแบ่งที่นั่งผู้เข้าร่วมในพิธีออกเป็น 4 ส่วนหลักๆ "ขวามือด้านหน้าสุด" คือแขกผู้มีเกียรติซึ่งรวมถึงราชวงศ์ ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และผู้แทนจากประเทศต่างๆ ส่วน "ซ้ายมือหน้าสุด" คือคณะพระคาร์ดินัลและชิชอบ ส่วนขวามือด้านหลังคือพื้นที่ของสาธารณชน(จำหนวนหนึ่ง) และพื้นที่ซ้ายมือด้านหลังคือที่นั่งของนักบวชในศาสนาต่างๆ
บีบีซีระบุว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ผู้ล่วงลับพระชนม์มายุ 88 พรรษา ทรงตัดสินพระทัยแหวกขนบธรรมเนียมจารีต ที่ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมานานกว่าร้อยปีของศาสนจักรคาทอลิก โดยทรงเลือกที่จะไม่ฝังพระศพในเขตกำแพงของนครรัฐวาติกัน ตามแบบอย่างเหล่าพระสันตะปาปาในอดีต
สถานที่ซึ่ง โป๊ปฟรานซิส ทรงเลือกกลับเป็น "มหาวิหาร ซานตา มารีอา มาจอเร" (Santa Maria Maggiore) หรือมหาวิหารเอกนักบุญมารีอา ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงโรมของอิตาลี และเป็นมหาวิหารที่โป๊ปฟรานซิสมักเสด็จมาสวดภาวนา รวมทั้งถวายเครื่องสักการบูชาอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงก่อนและหลังการเสด็จเยือนต่างประเทศ
การตัดสินพระทัยเลือกฝังพระศพในมหาวิหารแห่งนี้ มีสาเหตุสำคัญเกี่ยวเนื่องกับพระเมตตาของโป๊ปฟรานซิส ซึ่งตลอดพระชนมชีพทรงใส่พระทัยอย่างยิ่งต่อความเป็นอยู่ของคนยากจน รวมทั้งกลุ่มคนชายขอบผู้ด้อยโอกาสในสังคม
ผู้นำทั่วโลกเข้าร่วม จับตาใช้โอกาสนี้พบปะพูดคุยกัน
เป็นที่คาดว่าจะมีพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์อยู่ 11 พระองค์ และผู้นำโลกมากกว่า 50 คนเข้าร่วม อาทิ สมเด็จพระราชาธิบดี คาร์ล กุสตาฟ และสมเด็จพระราชินีซิลเวีย แห่งสวีเดน, สมเด็จพระราชาธิบดี เฟลิปเป และสมเด็จพระราชินีเลทิเซีย แห่งสเปน และมกุฏราชกุมารฮากอน และเจ้าหญิงเมตเต มาริตต์ แห่งนอร์เวย์
(ซ้ายหน้า) ปธน.ทรัมป์และภริยา, (กลางหน้าสวมแว่นกันแดด) พระราชาและพระราชินีสเปน, (แถวหลังจากซ้าย) ปธน.โปแลนด์ และปธน.โปรตุเกส
มกุฏราชกุมาร์ฮากอน และเจ้าหญิงเมตเต มาริตต์ แห่งนอร์เวย์
ผู้แทนจาก "สหรัฐ" นำโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เดินทางมาร่วมงานพร้อมเมลาเนีย ทรัมป์ ภริยา และยังมีอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน และภริยาเข้าร่วมด้วย, "สหภาพยุโรป" (อียู) นำโดยเออร์ซูลา ฟอน เดอ เลย์เอิน และคู่สมรส, "ฝรั่งเศส" นำโดยประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง และบริจิตต์ มาครง ภริยา
นอกจากนี้ยังมีประธานาธิบดีอาร์เจนตินา ฆาบิเอร์ มิเลย์ ซึ่งเป็นผู้นำประเทศบ้านเกิดของโป๊บฟรานซิส และยังมีลูอิซ อิกนาชิโอ ลูลา ดา ซิลวา ประธานาธิบดีบราซิล และประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน
ไต้หวันได้ส่งอดีตรองประธานาธิบดี เฉิน เจี้ยนเหริน ไปร่วมพิธีพระศพโดยรายงานข่าวระบุว่า เฉินหวังที่จะใช้โอกาสนี้ในการพูดคุยกับผู้นำจากประเทศต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับไต้หวัน เพื่อเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในขณะที่จีนยังไม่มีรายงานว่าส่งผู้แทนมาเข้าร่วม
