สหรัฐคงรายชื่อ 'ไทย' บัญชี Watch List จับตามองทรัพย์สินทางปัญญา

สหรัฐคงรายชื่อ 'ไทย' บัญชี Watch List จับตามองทรัพย์สินทางปัญญา

USTR เปิดเผยรายงาน Special 301 Report คงรายชื่อ 'ประเทศไทย' ในบัญชีประเทศจับตามองด้านทรัพย์สินทางปัญญา และเพิ่ม 'เม็กซิโก' ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ

สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เปิดเผยรายงาน Special 301 Report ประจำปี 2025 เรื่องการใช้มาตรการปกป้องและบังคับใช้ทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ของประเทศคู่ค้ากับสหรัฐ ซึ่งในปีนี้สหรัฐยังคงจัด "ประเทศไทย" อยู่ในบัญชีรายชื่อประเทศที่ต้องจับตามอง (Watch List) 18 ประเทศ เหมือนกับในปีที่แล้ว โดยแม้จะมีความคืบหน้าที่ดีหลายด้าน แต่ก็ยังมีข้อห่วงกังวลอยู่

รายงานระบุถึงประเทศไทยว่า มีความก้าวหน้าในหลายด้าน อาทิ การปรับปรุงการคุ้มครองและการบังคับใช้ทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ในเดือนธ.ค. 2567 ไทยได้เผยแพร่ร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติสิทธิบัตรฉบับใหม่ เพื่อปรับปรุงกระบวนการจดทะเบียนสิทธิบัตร ลดปริมาณสิทธิบัตรที่ค้างอยู่และระยะเวลาดำเนินการ และเพื่อช่วยเตรียมการเข้าร่วมความตกลงกรุงเฮกว่าด้วยการจดทะเบียนการออกแบบอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ 

อย่างไรก็ตาม สหรัฐก็ยังมีข้อห่วงกังวลในบางเรื่องอยู่ อาทิ การบังคับใช้กฎหมายบางส่วนเน้นไปที่คลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า แต่สินค้าลอกเลียนแบบและละเมิดลิขสิทธิ์ยังคงหาซื้อได้ง่ายโดยเฉพาะทางออนไลน์ และเจ้าของลิขสิทธิ์กังวลว่าเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายจะเน้นที่ความผิดของผู้ประกอบการ "รายย่อย" แทนที่จะมุ่งเป้าที่ผู้จัดจำหน่ายและผู้ประกอบการการผลิตรายใหญ่ เป็นต้น

ทั้งนี้ สหรัฐได้จัดให้ไทยอยู่ในบัญชี Watch List มาตั้งแต่ปี 2560 หลังจากที่อยู่ในบัญชี "ประเทศที่ต้องจับตามองพิเศษ" (Priority Watch List: PWL) มานานถึง 10 ปีตั้งแต่ปี 2550

ก่อนหน้านี้ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในเดือนก.พ.ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลกำลังเร่งผลักดันให้ไทยหลุดพ้นจากบัญชีวอทช์ลิสต์ในปี 2568 ท่ามกลางความพยายามในการปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์

อย่างไรก็ดี ไฮไลต์ของรายงานปีนี้อยู่ที่ "เม็กซิโก" เพราะถูกลดอันดับจากประเทศเฝ้าระวังไปเป็นบัญชี "ประเทศที่ต้องจับตามองพิเศษ" (Priority Watch List) ซึ่งมีทั้งหมด 8 ประเทศ ได้แก่ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย รัสเซีย ชิลี อาร์เจนตินา เวเนซุเอลา และเม็กซิโกเป็นรายล่าสุด โดยสหรัฐให้เหตุผลว่า "มีข้อกังวลมาอย่างยาวนานและยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งหลายประเด็นเกี่ยวข้องกับการบังคับใช้ข้อตกลงสหรัฐ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) ของเม็กซิโก"

ทั้งนี้ การประกาศสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาได้รับความสำคัญในปีนี้ เนื่องจากเป็นปัจจัยหนึ่งของรัฐบาลสหรัฐในการเจรจาการค้ากับประเทศคู่ค้า หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวหาประเทศคู่ค้าว่าได้เอาเปรียบสหรัฐทั้งจากมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากร และมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร
  
“ชาวอเมริกันมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งในฐานะผู้สร้างสรรค์และนวัตกรชั้นนำของโลก” เจมีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐกล่าว “คู่ค้าของเราต้องแก้ไขข้อกังวลที่ระบุไว้ในรายงานพิเศษ 301 และหยุดยั้งผู้ที่ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของธุรกิจและบุคคลที่ทำงานหนัก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีประวัติในการส่งเสริมอำนาจแก่ผู้สร้างสรรค์และคนงานของเรา และรายงานฉบับสมบูรณ์นี้ยังเป็นพื้นฐานสำหรับสหรัฐ ในการบังคับใช้ทางการค้ากับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามอย่างเป็นธรรม”