บังกลาเทศยังเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต

ล่าสุดเจ้าหน้าที่กู้ซากผู้เสียชีวิตมาได้แล้ว 87 แล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บมีมากกว่า 700 คน โดยในขณะเกิดเหตุ คาดว่ามีคนงานราว 6,000 คน กำลังทำงานอยู่ภายใน

ทางด้านนายมูหิอุดดิน ข่าน รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า อาคารที่เกิดเหตุก่อสร้างขึ้นอย่างไม่ถูกต้อง และผิดกฏหมายควบคุมอาคารของประเทศ และเหตุที่เกิดขึ้นกับโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าภายในบังกลาเทศบ่อยครั้งยังทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยของโรงงานเหล่านี้

ทั้งนี้ บังกลาเทศเป็นผู้ผลิตเสื้อผ้าส่งออกรายใหญ่ อันดับสองของโลก เป็นผู้ผลิตเสื้อผ้าให้กับเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าในประเทศตะวันตกหลายแห่ง แต่ก็มีอุบัติเหตุ และการประท้วงเรียกร้องขึ้นค่าแรงของคนงานโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า รวมทั้งการปรับปรุงสภาพการทำงานอยู่บ่อยครั้ง

รายงานข่าวบางกระแส ระบุด้วยว่าอาคารที่ถล่มลงมานี้ เป็นแหล่งผลิตเสื้อผ้าป้อนให้กับเจ้าของแบรนด์ "แมงโก" และ "เบเนตอง" แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังของสเปน และอิตาลี ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อกับนายบาซลุส ซาหมัด เจ้าของอาคาร 8 ชั้นที่ถล่มลงมา แต่ไม่สามารถติดต่อได้เพราะนายซาหมัดไม่ยอมรับโทรศัพท์

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2555 ก็เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าส่งออกไปยังประเทศตะวันตกในกรุงธากา ทำให้คนงานเสียชีวิตถึง 111 ราย และนับเป็นโศกนาฏกรรมครั้งร้ายแรงที่สุดในอุตสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้าส่งออกของบังกลาเทศ

รัฐบาลประเทศตะวันตก เช่น สหรัฐ ได้เพิ่มแรงกดดันรัฐบาลบังกลาเทศให้ยกระดับมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยในสถานที่ทำงานของคนงานโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าในบังกลาเทศให้ดีขึ้น แต่ขั้นตอนการผลักดันให้เกิดการปรับปรุงสภาพและความปลอดภัยในการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมของฝ่ายรัฐบาลกระทำขึ้นอย่างล่าช้า จนเกิดเหตุร้ายกับคนงานชาวบังกลาเทศบ่อยครั้ง

ขณะที่ องค์การแรงงานสากล (ไอแอลโอ) ระบุว่านับตั้งแต่ปี 2548 มีคนงานชาวบังกลาเทศเสียชีวิตที่โรงงานในบ้านเกิดแล้วราว 700 ราย