โลกประณามฆ่าตัวประกันญี่ปุ่น ไอเอสยื่นขอแลกมือระเบิดหญิง

ผู้นำแดนปลาดิบประณามกลุ่มไอเอสสังหารตัวประกัน ระบุให้อภัยไม่ได้ ผู้นำโลกพร้อมใจประณาม
"โอบามา" ระบุกระทำการโหดเหี้ยม ด้านไอเอสเปลี่ยนเงื่อนไข ร้องปล่อยตัวมือระเบิดหญิงที่ถูกจำคุกตลอดชีวิตในจอร์แดน แลกกับตัวประกันที่เหลือ
นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น ประณามการสังหารตัวประกันชาวญี่ปุ่นอย่างรุนแรงว่า การก่อการร้ายดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่เกะกะระรานมากและให้อภัยไม่ได้ พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายเคนจิ โกโต ตัวประกันชาวญี่ปุ่นอีกคนที่เป็นนักข่าวอิสระ
คำประณามของนายอาเบะมีขึ้นหลังจากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ประกาศทางวีดิโอว่า ได้ตัดคอนายฮารูนะ ยูกาวา ผู้รับเหมาด้านความมั่นคง โดยวีดิโอดังกล่าวดูมีความน่าเชื่อถือและดูเหมือนเป็นจุดพลิกผันของเหตุการณ์
นายอาเบะ กล่าวว่า ญี่ปุ่นกำลังวิเคราะห์ภาพเพื่อยืนยันว่าวีดิโอดังกล่าวเป็นของจริงหรือไม่ แต่ยอมรับว่าดูเหมือนน่าเชื่อถือ วีดิโอดังกล่าวมีความยาวแค่ 3 นาที และเป็นภาพนิ่งนายโกโต ถือสิ่งที่ดูเหมือนเป็นรูปถ่ายร่างไร้ชีวิตของนายยูกาวา
วีดิโอดังกล่าวถูกโพสต์พร้อมเสียงที่บันทึกไว้ ซึ่งชายคนหนึ่งที่อ้างว่าเป็นนายโกโตตำหนินายอาเบะว่า เป็นเหตุให้ตัวประกันเสียชีวิตเพราะไม่ยอมจ่ายเงินค่าไถ่ 200 ล้านดอลลาร์ตามที่กลุ่มไอเอสเรียกร้อง นอกจากนั้น เสียงดังกล่าวยังยื่นข้อเรียกร้องใหม่ให้ปล่อยตัว นางซาจิดา อัลริชาวี หญิงอิรัก ที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในจอร์แดน ฐานมีส่วนร่วมในเหตุลอบวางระเบิดหลายระลอกในกรุงอัมมานเมื่อปี 2548 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 60 ราย
เสียงพูดของชายที่อ้างว่า เป็นนายโกโตและมีสำเนียงอังกฤษ ระบุว่ากลุ่มไอเอสไม่ต้องการเรียกร้องเงินแลกกับชีวิตของเขาอีกแล้ว แต่ต้องการให้ปล่อยตัว "น้องสาวของพวกเขา"
"ง่ายมาก แค่ปล่อยซาจิดา ผมก็จะได้รับอิสรภาพ ตอนนี้ดูเหมือนสิ่งดังกล่าวยังเป็นไปได้และรัฐบาลสามารถทำในสิ่งนี้ได้" เสียงในเทประบุ โดยนางซาจิดา ถูกจับไม่นานหลังจากไม่ยอมระเบิดตัวเองระหว่างปฏิบัติการระเบิดโรงแรม 1 ใน 3 แห่ง
คลางแคลงใจวีดิโอ
นักวิจารณ์บางคนตั้งข้อสังเกตว่าเสียงดังกล่าวฟังดูไม่คล้ายกับเสียงในวีดิโอของนายโกโต แต่นักวิเคราะห์คนหนึ่งชี้ว่าแน่นอนว่า 99% ที่เสียงดังกล่าวเป็นของนายโกโต
ทั้งนี้ เมื่อต้นสัปดาห์ ญี่ปุ่นได้ส่งรัฐมนตรีคนหนึ่งไปจอร์นแดน แต่นายอาเบะไม่ได้ให้เห็นความเห็นว่าจะขอให้รัฐบาลกรุงอัมมาน ปล่อยตัวนางซาจิดาหรือไม่
ช่วงแรกที่มีการเปิดเผยวีดิโอสังหารตัวประกัน มีเสียงวิจารณ์แสดงความคลางแคลงใจ ส่วนหนึ่งเพราะไม่ได้โพสต์บนช่องทางอย่างเป็นทางการของกลุ่มไอเอส และไม่มีธงสีดำ-ขาว อีกทั้งยังไม่มีการสังหารนายยูกาวาให้เห็น
ทั้งนี้ นายยูกาวา วัย 42 ถูกกลุ่มไอเอสจับตัวไปเมื่อเดือนส.ค. หลังจากเดินทางไปซีเรีย เพื่อเปิดบริษัทด้านความมั่นคง ส่วนนายโกโต วัย 47 เดินทางไปซีเรีย ช่วงปลายเดือนต.ค. เพื่อพยายามให้มีการปล่อยตัวนายยูกาวา
นายโชอิชิ ยูกาวา บิดาของนายยูกาวา กล่าวว่า ทันทีที่ทราบข่าวว่าลูกชายถูกฆ่าก็แทบไม่มีความรู้สึกอย่างอื่น นอกจากเสียใจมาก พูดไม่ออก ได้แต่หวังว่าจะไม่เป็นความจริง ด้านมารดาของนายโกโตกล่าวว่าแทบไม่มีความหวังหลังจากได้เห็นภาพลูกชายซึ่งดูเครียดและเกร็งมาก พร้อมเสริมว่าญี่ปุ่นไม่เคยทอดทิ้งประชาชน เธอเชื่อว่ารัฐบาลกำลังทำอย่างดีที่สุด
อังกฤษชี้ป่าเถื่อน
ด้านประธานาธิบดีบารัก โอบามา แห่งสหรัฐ เป็นผู้นำประเทศต่างๆ ทั่วโลกในการประณามการกระทำของกลุ่มไอเอสที่สังหารนายยูกาวา อย่างโหดเหี้ยม พร้อมกับโทรศัพท์หานายอาเบะ เพื่อแสดงความเสียใจและความเป็นหนึ่งเดียวกับชาวญี่ปุ่น
นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษ กล่าวว่า เป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน ขณะประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์แห่งฝรั่งเศส กล่าวทำนองเดียวกันว่าเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน ด้านนายกรัฐมนตรีโทนี แอบบอตแห่งออสเตรเลีย ระบุว่าเป็นการกระทำที่ชั่วร้ายของกลุ่มลัทธิแห่งความตาย สิ่งที่เกิดขึ้นตอกย้ำว่าต้องทำทุกอย่างเพื่อลดทอนกำลังของกลุ่มลัทธิแห่งความตายนี้
ทั้งนี้ กลุ่มไอเอสได้สังหารตัวประกันชาวตะวันตกไปแล้ว 5 รายตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ขู่สังหารตัวประกันชาวญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นกล่าวมาหลายครั้งว่ากำลังพยายามติดต่อกลุ่มไอเอส มีรายงานว่าที่ปรึกษาคนหนึ่งของนายอาเบะกล่าวว่ามีการสื่อสารทางอ้อมกับกลุ่มไอเอส แต่ไม่ได้ติดต่อกับโดยตรง
รัฐบาลกรุงโตเกียวไม่มีอิทธิพลทางการทูตมากนักในตะวันออกกลาง แต่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า นายอาเบะ อาจพยายามใช้ความสัมพันธ์แนบแน่นกับประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกันแห่งตุรกี เพื่อให้ช่วยเหลือตัวประกัน ขณะที่เอ็นเอชเครายงานว่า นายอาเบะ ได้พูดคุยกับกษัตริย์อับดุลลาห์ แห่งจอร์แดนเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเงื่อนไขของกลุ่มไอเอสให้ปล่อยนางซาจิดา
กลุ่มไอเอสระบุก่อนหน้านี้ว่า ที่เรียกเงินค่าไถ่ 200 ล้านดอลลาร์นั้น เป็นจำนวนเงินเท่ากับความช่วยเหลือที่นายอาเบะ สัญญาว่าจะช่วยเหลือประเทศต่างๆ รับมือกับผู้อพยพที่หลบหนีการสู้รบระหว่างกลุ่มไอเอสและกองกำลังของประเทศต่างๆ
"อาเบะ"กร้าวไม่จำนนก่อการร้าย
ล่าสุดนายอาเบะ ยังมีท่าทีแข็งกร้าว ว่าจะไม่ยอมจำนนต่อก่อการร้าย ญี่ปุ่นจะมุ่งมั่นในสันติภาพและเสถียรภาพของโลก โดยวิกฤติตัวประกันถือเป็นบททดสอบสำหรับนายอาเบะที่ขึ้นสู่อำนาจเมื่อปี 2555 พร้อมประกาศจะเพิ่มบทบาทด้านความมั่นคงของญี่ปุ่นในโลก
ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นเคยจ่ายเงิน 6 ล้านดอลลาร์แก่สมาชิกกลุ่มกองทัพแดงของญี่ปุ่นที่จี้เครื่องบินพร้อมผู้โดยสาร 156 ชีวิต แต่ในระยะหลังญี่ปุ่นหันไปใช้ท่าทีเดียวกับสหรัฐที่ไม่ยอมจ่ายเงินค่าไถ่ นอกจากนั้น รัฐธรรมนูญของญี่ปุ่นยังห้ามการตอบโต้ทางทหาร นายอาเบะ ให้สัมภาษณ์เอ็นเอชเคว่า ญี่ปุ่นไม่ได้ตั้งใจจะเข้าร่วมปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเข้าใส่เป้าหมายไอเอสในอิรักกับซีเรีย แต่ต้องการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม