เตือนดาวหางยักษ์อันตรายกว่าดาวเคราะห์น้อย

นักดาราศาสตร์จากหอดูดาวอาร์แม็กและมหาวิทยาลัยบัคกิงแฮมในสหราชอาณาจักร ระบุในวารสารดาราศาสตร์และธรณีฟิสิกส์ว่า ดาวหางยักษ์ในระบบสุริยะอาจมีอันตรายต่อโลกมากกว่าดาวเคราะห์น้อย

นักดาราศาสตร์จากสหราชอาณาจักรพบว่า สิ่งที่อันตรายต่อโลกมากกว่าอาจเป็นดาวหางขนาดยักษ์ที่เรียกว่า “เซ็นทอร์” ซึ่งประกอบด้วยน้ำแข็งและฝุ่นเป็นก้อนทรงกลมกว้างประมาณ 50-100 กิโลเมตร และมีวงโคจรไม่แน่นอนเป็นวงรีโดยเริ่มจากดาวเนปจูน

คณะนักดาราศาสตร์ชุดนี้ซึ่งรวมถึง ศ.บิล เนเพียร์ ศ.มาร์ค ไบลีย์ และดร.เดวิด แอชเชอร์ ระบุว่า ขณะที่โคจรอยู่ เซ็นทอร์จะเดินทางข้ามดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ และดาวยูเรนัส แต่บางครั้งเซ็นทอร์อาจเบนเส้นทางโคจรเนื่องจากผลของสนามแม่เหล็กของหนึ่งในดาวเคราะห์เหล่านี้ และพุ่งตรงมาที่โลกแทน

นักดาราศาสตร์จากสหราชอาณาจักรระบุอีกว่า หากดาวหางเข้าใกล้โลกและดวงอาทิตย์ จะทำให้ดาวหางเริ่มแตกออกเป็นชิ้นๆ และมีเศษซากตกในโลก รวมทั้งทำให้เกิดแรงระเบิดของเศษซากดาวหางเป็นช่วงๆ จนท้องฟ้ามืดสนิททั้งวันเสมือนผลจากสงครามนิวเคลียร์ และอาจจะเป็นอย่างนี้ยาวนานถึง 100.000 ปี

ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์เทคไทม์สรายงานว่าองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือนาซาพบว่า มีวัตถุใกล้โลกโคจรอยู่ในระบบสุริยะอยู่ราว 12,992 ชิ้นและคาดการณ์ว่าประมาณ 1,607 ชิ้นจากจำนวนดังกล่าวเป็นดาวเคราะห์น้อยที่อาจเป็นอันตรายต่อโลก