เจาะลึก 'เมลาเนีย ทรัมป์'-ว่าที่สตรีหมายเลข 1 สหรัฐ

เมลาเนีย ทรัมป์ ภรรยาของ โดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ ถูกจับตามองจากหลายฝ่าย ทั้งเรื่องความสง่างามและเสน่ห์ดึงดูดใจ ที่สำคัญ เธอกำลังจะกลายเป็นชาวต่างชาติคนที่ 2  ที่ได้ขึ้นเป็นสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐ ต่อจาก "ลุยซา อดัมส์"  ภริยาที่เกิดในอังกฤษของ "จอห์น ควินซีย์ อดัมส์" ประธานาธิบดีสหรัฐระหว่างปี 2368-2372

เมลาเนีย เป็นชาวสโลวีเนียโดยกำเนิด เธอเป็นภรรยาคนที่ 3 ของทรัมป์ แม้จะเรียนไม่จบในระดับมหาวิทยาลัย แต่ก็มีความสามารถพูดได้ถึง 5 ภาษา ทั้งสโลวีเนีย เซอร์เบีย อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมัน 

เธอเริ่มต้นอาชีพนางแบบตั้งแต่อายุ 16 ปี พออายุได้ 18 ปี ก็ได้เซ็นสัญญากับเอเยนซี่ในเมืองมิลาน อิตาลี

อดีตนางแบบวัย 46 ปีรายนี้ ลาออกจากมหาวิทยาลัยกลางคัน หลังเรียนได้แค่ปีแรก เพื่อไปทำงานเป็นนางแบบ กับห้องเสื้อชื่อดังต่าง ๆ ในเมืองมิลาน และกรุงปารีสของฝรั่งเศส ก่อนจะย้ายมาทำงานที่นครนิวยอร์ก สหรัฐเมื่อปี 2539  สถานที่ที่เธอได้พบกับสามี  ที่งานเลี้ยงแห่งหนึ่งในปี 2541

ขณะนั้นทรัมป์มีภรรยาอยู่แล้วคือ "มาร์ลา เมเปิลส์"  ภรรยาคนที่ 2  ต่อมาทั้งคู่ได้เลิกรากัน และทรัมป์ได้หมั้นกับเมลาเนียในปี 2547 จนกระทั่งแต่งงานกันในเดือนมกราคมปีต่อมา

งานแต่งงานของทั้งคู่ได้รับความสนใจไปทั่วโลก โดยเฉพาะชุดแต่งงานของเจ้าสาวที่แสนจะเลิศหรูอลังการประดับด้วยคริสตัล 1,500 เม็ด ส่งตรงมาจากห้องเสื้อดิออร์ ด้วยราคาถึง 100,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3.37 ล้านบาท ซึ่งบิลและฮิลลารี คลินตัน ก็ได้รับเชิญไปร่วมงานแต่งงานนี้ด้วย

ทรัมป์และเมลาเนีย ซึ่งได้สถานะพลเมืองอเมริกันเมื่อปี 2549 มีบุตรชายด้วยกัน 1 คนชื่อ เด็กชายแบร์รอน วิลเลียม ทรัมป์  หรือ  “มินิ โดนัลด์”  ชื่อเล่นที่แม่เป็นผู้ตั้งให้ 

แม้เธอจะไม่ค่อยได้เปิดตัวมากนัก ในช่วงที่สามีตระเวนหาเสียง แต่เมลาเนีย ก็เคยกล่าวระหว่างช่วยหาเสียงที่รัฐเพนซิลเวเนียว่า ทรัมป์จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐที่ยอดเยี่ยม และมั่นใจว่า เขาคือคนที่ชาวอเมริกันต้องการ เพราะเขาพร้อมสู้เพื่อประชาชนและประเทศชาติ 

บางครั้งเมลาเนีย ก็ต้องเผชิญกับเรื่องน่าอับอายจากพฤติกรรมของสามี โดยเฉพาะเมื่อมีการเปิดเผยคลิปที่ทรัมป์กล่าวดูหมิ่นผู้หญิงในเชิงลามก  เธอบอกว่า  รับไม่ได้กับเรื่องที่ี่สามีพูด แต่ก็เข้าใจว่าเรื่องแบบนี้มักเป็นเรื่องตลกที่พูดกันในกลุ่มผู้ชาย

ว่าที่สุภาพสตรีหมายเลข 1 คนใหม่ของสหรัฐ ไม่ได้มีดีแค่ความสวยเท่านั้น แต่เธอยังสนใจเรื่องธุรกิจทั้งที่มีเงินใช้มากมายอยู่แล้ว เธอยังดำรงตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์ขององค์กรอาหาร สำหรับผู้ยากจนแห่งรัฐฟลอริดาด้วย

ต้องรอชมกันว่า ภายใน 4 ปีข้างหน้านี้ เมลาเนีย ว่าที่สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐ จะใช้ภาพลักษณ์ “ด้านอ่อน” ด้วยบุคลิกอันสง่างามของเธอ เติมเต็ม “ด้านแข็งกร้าวและโผงผาง” ของทรัมป์ ว่าที่ผู้นำสหรัฐ จนกลายเป็นคู่รักผู้นำประเทศที่โดดเด่นในเวทีโลกได้หรือไม่