‘สิงเทล’รุกทดสอบบริการ5จีในออสเตรเลีย
บริษัทสิงคโปร์ เทเลคอมมิวนิเคชันส์ หรือ “สิงเทล” ใช้ออสเตรเลียเป็นสมรภูมิทดสอบบริการเครือข่าย 5จี ด้วยการนำเทคโนโลยีไร้สายสู่ครัวเรือนโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับเครือข่ายไฟเบอร์ที่มีค่าใช้จ่ายแพง
การผลักดันเทคโนโลยี 5จี ในออสเตรเลียและตลาดบ้านเกิดในสิงคโปร์ของสิงเทล มีขึ้นในช่วงที่เกิดการแข่งขันดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จาก “หัวเว่ยเทคโนโลยีส์” ยักษ์ใหญ่เทเลคอมแห่งแดนมังกร
เมื่อเดือนม.ค.“ออพตัส” บริษัทลูกของสิงเทล ได้เปิดบริการ 5จี เชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรกในออสเตรเลีย ที่นครซิดนีย์และกรุงแคนเบอร์รา บริการนี้จะทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงความเร็ว 5จี ผ่านอินเทอร์เน็ตบ้านไร้สาย ซึ่งรวมถึงมือถือและแล็ปท็อป
ออพตัสระบุว่า เครือข่าย 5จี ของบริษัทจะครอบคลุมพื้นที่ 1,200 แห่งภายในเดือนมี.ค. 2563
บิล ชาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ฝ่ายกลุ่มองค์กรของสิงเทล กล่าวว่า บริการ 5จีของออพตัสมีหน้าที่ที่แตกต่างจากสิงคโปร์อย่างมาก
“ในออสเตรเลีย เราเปิดตัว 5จีในรูปแบบการเข้าถึงระบบไร้สายในตำแหน่งตายตัว (ฟิกซ์ ไวร์เลส) เช่น บ้านหรือสำนักงาน เนื่องจากการเข้าถึงสัญญาณไฟเบอร์บางส่วนยังใช้งานไม่ได้ในบางพื้นที่ของออสเตรเลีย ต่างกับสิงคโปร์ที่ใช้เครือข่ายไฟเบอร์ความเร็วสูงเป็นวงกว้างทั่วประเทศ”
สำนักงานการสื่อสารและสื่อออสเตรเลีย ประกาศเมื่อเดือนธ.ค. ที่ผ่านมาว่า ออพตัสจ่ายเงินประมูล 185 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียคว้าคลื่นความถี่ในการให้บริการ 5จี47 ช่องความถี่ และยังมีผู้ให้บริการอีก 3 รายร่วมทุ่มเงินประมูลคลื่นความถี่ 5จี
เมื่อเดือนส.ค. 2561 รัฐบาลออสเตรเลียประกาศห้าม “หัวเว่ย” ผู้ผลิตอุปกรณ์เคลื่อนที่รายใหญ่ของจีน ทำธุรกิจในตลาดออสเตรเลีย โดยอ้างว่ากังวลเรื่องความมั่นคง ความเคลื่อนไหวนี้บีบให้บริษัทท้องถิ่นอย่าง “ทีพีจี เทเลคอม” ต้องล้มแผนเปิดบริการ 5จีในประเทศ
แม้ว่าสิงเทลไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับผลกระทบจากการห้ามหัวเว่ยดำเนินธุรกิจในออสเตรเลีย แต่บริษัทระบุว่า กำลังทำงานกับผู้จำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารจำนวนหนึ่งเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าของตน ผู้จำหน่ายเหล่านี้รวมไปถึง “โนเกีย” และ “อีริคสัน”
นอกจากนั้น สิงเทล ยังพยายามทิ้งห่างคู่แข่งด้าน 5จีในสิงคโปร์ ในขณะที่รัฐบาลเตรียมเดินหน้าเปลี่ยนมาใช้เครือข่าย 5จี แทน 4จี ทั่วประเทศ
ด้วยความร่วมมือระหว่างอีริคสันกับโรงเรียนโปลีเทคนิคสิงคโปร์ สิงเทลได้เปิดศูนย์เรียนรู้เชิงปฏิบัติ 5จี แห่งแรกในสิงคโปร์เมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์ฝึกอบรมและสนามทดสอบสำหรับอีโคซิสเต็ม 5จี ของประเทศ นอกจากนั้น พันธมิตรทั้ง 2 ฝ่ายจะร่วมกันพัฒนาแอพพลิเคชั่นด้านการขนส่ง การโลจิสติกส์ การดูแลสุขภาพ การผลิต และอุตสาหกรรมอื่น ๆ
ปัจจุบัน ยักษ์เทเลคอมของสิงคโปร์เผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้น เนื่องจากผู้ให้บริการรายที่ 4 อย่างทีพีจี เตรียมรุกเข้าตลาดสิงคโปร์ในปีนี้ ขณะที่อัตราเข้าถึงมือถือต่อประชากรในสิงคโปร์ทะลุ 100% ไปแล้วและผู้เชี่ยวชาญบางรายระบุว่า ผู้ให้บริการเพียง 3 รายก็มากเกินไปสำหรับตลาดที่มีประชากร5.8 ล้านคน
สิงเทล ประกาศผลกำไรในไตรมาสนับถึงวันที่ 31 ธ.ค. ที่ผ่านมา วานนี้ (14 ก.พ.) ว่า มีกำไรลดลง 14.2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 823 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ จาก 959 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ปัจจัยหลักจากบริษัทลูกทุกรายมีกำไรลดลง การหันมาใช้บริการดาต้าแทนบริการเสียงมากขึ้นของผู้บริโภค และการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นในประเทศ
ขณะที่เพื่อนบ้านร่วมภูมิภาคอย่างเวียดนามเตรียมเปิดรับยักษ์ใหญ่หัวเว่ยรุกตลาดอุปกรณ์เครือข่าย 5จี หลังเปิดทดสอบบริการ 5จีในไทยไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งถือเป็นแห่งแรกของภูมิภาค
ฟ่าน จุน ซีอีโอของหัวเว่ย เวียดนาม ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์นิกเกอิ เอเชียน รีวิวเมื่อวันพุธ (13 ก.พ.) ว่า บริษัทเชื่อว่ามีโอกาสสูงที่จะได้รับเลือกเป็นซัพพลายเออร์อุปกรณ์เครือข่าย 5จี ให้กับบรรดาผู้ให้บริการมือถือของเวียดนาม
“เรามีความมั่นใจในการขยายธุรกิจในเวียดนาม ท่านรัฐมนตรีกระทรวงการสื่อสาร เหวียน มานห์ ฮุง เปิดรับผู้ให้บริการทุกราย”
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ รัฐบาลฮานอยยังไม่เปิดเผยแนวทางอย่างละเอียดเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เครือข่าย 5จี
ฟ่าน กล่าวว่า รัฐมนตรีเวียดนามได้ให้ “การบ้าน” กับหัวเว่ยและซัพพลายเออร์ที่มีความพร้อมรายอื่น ๆ เมื่อเดือนที่แล้ว และว่า หัวเว่ยเจรจากับพันธมิตรท้องถิ่นบางส่วนเพื่อเปิดทดสอบ 5จีในปลายปีนี้ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
การขยายธุรกิจไปทั่วโลกของหัวเว่ยเผชิญกับอุปสรรครอบด้าน เนื่องจากหลายประเทศต่างขัดขวางหรือทบทวนการมีส่วนร่วมของซัพพลายเออร์อุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลก ในโครงการเครือข่าย 5จีท้องถิ่น
“การจะเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้ในชั่วข้ามคืนเป็นเรื่องยาก” ฟ่านยอมรับ แต่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หัวเว่ยประสบความสำเร็จมาบ้างแล้ว ซึ่งรวมถึงการที่ “โกลบ เทเลคอม” ผู้ให้บริการไร้สายของฟิลิปปินส์ ตัดสินใจเดินหน้าบริการ 5จีร่วมกับหัวเว่ยในปีนี้
“เราไม่อาจยอมแพ้เรื่องคุณภาพหรือต้นทุนในเวียดนามได้” ฟ่านกล่าว และว่า “หัวเว่ยจะนำเสนอเทคโนโลยีและโซลูชั่นที่ดีกว่า ประกอบกับให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ให้บริการท้องถิ่น เพื่อติดตั้ง 5จี”
ปัจจุบัน หัวเว่ย เป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุดด้านเครือข่าย 2จี และ 3จี ในเวียดนาม แม้จะเสียตำแหน่งผู้นำในบริการ 4จี ก็ตาม โดยฟ่านระบุว่า บริษัทจะให้ความสำคัญกับการสื่อสารที่ดียิ่งขึ้นกับบรรดาผู้ให้บริการท้องถิ่นและรัฐบาล เพื่อพัฒนาบริการ 5จี