“ทักษิณ”ชี้เลือกตั้งไม่โปร่งใส

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยที่ถูกโค่นอำนาจจากการรัฐประหารเมื่อปี 2549 เขียนบทความลงในนิวยอร์กไทม์ เมื่อวันจันทร์ (25มี.ค.)ระบุว่า การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่่ผ่านมาไม่ชอบมาพากล พร้อมทั้งเตือนว่าเผด็จการทหารพร้อมที่จะทำลายทั้งระบบเพื่อที่จะคงอยู่ในอำนาจต่อไป

บทความในนิวยอร์กไทม์ของนายทักษิณ ระบุว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ไทยเลื่อนประกาศผลการเลือกตั้งเมื่อคืนวันอาทิตย์(24มี.ค.)ที่ผ่านมา มาเป็นช่วงบ่ายของวันจันทร์ (25 มี.ค.) แต่ตัวเลขที่กกต.เปิดเผยเปลี่ยนกลับไปกลับมา ซึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทยไม่เคยมีการประกาศผลการเลือกตั้งล่าช้าถึงขนาดนี้มาก่อน แสดงให้เห็นว่าเผด็จการทหารกลัวผลการเลือก

นอกจากนี้ ยังมีกรณีจำนวนบัตรลงคะแนนมีมากกว่าจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งในบางพื้นที่ หรือในบางพื้นที่จำนวนผู้มาใช้สิทธิก็มีมากกว่าจำนวนประชากรในพื้นที่ มีการออกผลการเลือกตั้งของผู้สมัครบางรายที่ไม่ตรงกับรายงานของเจ้าหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง มีจำนวนของบัตรเสียเยอะมากจนผิดปกติ และยังมีรายงานว่า บัตรลงคะแนนบางส่วนที่ระบุว่าเป็นบัตรเสียกลับถูกนับเป็นคะแนนให้กับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคตัวแทนของทหาร ถึงแม้ว่าในเวลาต่อมาจะมีการแก้ไขข้อผิดพลาดบางส่วน แต่เมื่อดูจากวิธีการที่นำมาใช้แล้วทำให้รู้ได้ว่ามีการแทรกแซงผลการเลือกตั้งอย่างมาก

อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ยังระบุว่า ภายใต้รัฐธรรมนูญปัจจุบัน พรรคพลังประชารัฐอาจจะเป็นคนเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ได้โดยที่ไม่ได้ ส.ส. เสียงข้างมากในสภา ซึ่งจะทำให้เกิดรัฐบาลที่ขาดเสถียรภาพอย่างมากตามมา และถ้าหากไม่มีการเคารพในกฎเกณฑ์กติกา ประเทศไทยที่กำลังต้องการเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติอาจเผชิญปัญหา เพราะเศรษฐกิจโลกกำลังจะเข้าสู่ภาวะชะลอตัว รัฐบาลใหม่จะสามารถรับมือกับปัญหาท้าทายนี้ได้หรือไม่