นักเศรษฐศาสตร์คาดอีก 2 ปีเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย
นักเศรษฐศาสตร์อเมริกันห่วงนโยบายเศรษฐกิจประธานาธิบดีทรัมป์ 34% คาดเศรษฐกิจถดถอยภายในสิ้นปี 2564
สมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติสหรัฐ (เอ็นเอบีอี) เผยแพร่ผลสำรวจล่าสุด วานนี้ (19 ส.ค.) พบว่า นักเศรษฐศาสตร์ 34% เชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังชลอตัวจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2564 เทียบกับผลการสำรวจเมื่อเดือน ก.พ.ตัวเลขอยู่ที่ 25% ส่วนคนที่เชื่อว่าเศรษฐกิจจะเริ่มถดถอยในปีนี้มีเพียง 2% อีก 38% เชื่อว่าจะเกิดขึ้นในปี 2563
ก่อนหน้านี้ บรรดานักเศรษฐศาสตร์ก็เคยกังวลว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เก็บภาษีคู่ค้าและขาดดุลงบประมาณเพิ่มสุดท้ายแล้วจะทำลายเศรษฐกิจสหรัฐเอง
ขณะนี้ การค้าระหว่างสหรัฐกับจีน สองเขตเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลกดิ่งลงมาก เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ประธานาธิบดีทรัมป์ตัดสินใจเลื่อนเก็บภาษีสินค้าจีนรอบใหม่ออกไปเป็นวันที่ 15 ธ.ค.
ขณะที่ยังทำข้อตกลงเพื่อยุติสงครามการค้ากันไม่ได้ เรื่องนี้นักเศรษฐศาสตร์ยังไม่ค่อยมั่นใจว่า การเจรจาจะประสบผลสำเร็จ มีเพียง 5% เท่านั้นที่เชื่อว่าทั้งสองฝ่ายสามารถทำข้อตกลงการค้าแบบครอบคลุมได้อีก 64% เชื่อว่าได้แค่ข้อตกลงพืิ้นๆ เกือบ 25% เชื่อว่า คว้าน้ำเหลว
ในภาพรวมนักเศรษฐศาสตร์ไม่ค่อยเห็นด้วยกับนโยบายเศรษฐกิจรัฐบาลทรัมป์ กระนั้นสัญญาณเศรษฐกิจส่วนใหญ่ยังคงแข็งแกร่ง การจ้างงานเพิ่มขึ้นคงที่ อัตราว่างงานยังคงต่ำสุดในรอบเกือบ 50 ปี
ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่น และยอดขายค้าปลีกประจำเดือน ก.ค.พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 4เดือน
ส่วนตัวเลขนักเศรษฐศาสตร์ที่มองว่า มาตรการลดภาษี 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ตลอด 10 ปีข้างหน้า กระตุ้นมากเกินไปซึ่งอาจทำให้ขาดดุลงบประมาณสูงขึ้น ได้ลดลงมากจาก 71% ในเดือน ส.ค.2561 มาอยู่ที่ 51% ในการสำรวจรอบนี้