ปมร้าว ‘ม็อบฮ่องกง’ ส่อสะเทือนเศรษฐกิจโลก
ย้อนปมร้าวเบื้องหลังวิกฤติการเมืองในฮ่องกงที่กำลังสั่นสะเทือนเศรษฐกิจโลกอยู่ในตอนนี้
- อ่านข่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับซีรีส์ข่าว "วิกฤติฮ่องกง" ที่นี่
ทุน “ฮ่องกง” หนีวิกฤติ แห่เข้าลงทุนไทย
เช็คสถานะ 'ฮับการเงิน' ฮ่องกง ยุคขัดแย้งขั้นวิกฤติ
สัญญาณฮ่องกงช้อปคอนโดไทยเพิ่ม 'เซฟตี้โซน' กรณีฉุกเฉิน
ไม่มีใครรู้ว่าการชุมนุมประท้วงใน “ฮ่องกง” จะจบลงอย่างไร แต่ทุกคนรู้ว่า “จุดเริ่มต้น” มาจาก “ร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน” จากเกาะฮ่องกงไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ ปมของเรื่องเกิดจาก “เหตุฆาตกรรม” ในคดีหนึ่ง ซึ่งนำไปสู่การประท้วงครั้งใหญ่ที่ทั่วโลกเฝ้าติดตาม
คดีฆาตกรรมที่ว่านี้ เกิดจากคู่รักชาวฮ่องกงไปเที่ยวไต้หวัน แล้วผู้ชายก่อเหตุฆาตกรรมแฟนสาว ก่อนหลบหนีกลับฮ่องกง แต่ทว่ากฎหมายฮ่องกงไม่สามารถเอาผิดได้ เพราะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ไต้หวัน ในขณะที่ฮ่องกงไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน จึงเป็นที่มาของร่างกฎหมายดังกล่าว
ร่างกฎหมายฉบับนี้สร้างความกังวลใจกับคนฮ่องกงบางกลุ่ม ซึ่งเกรงว่าจะเป็นการ “เปิดช่อง” ให้ส่งผู้ร้ายในคดีการเมืองของจีนที่ลี้ภัยมาฮ่องกง และยังกลัวว่าอิทธิพลของจีนจะแทรกซึมเข้ามาควบคุมในฮ่องกงมากขึ้นเรื่อยๆ
ร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนนี้ ความจริงแล้วเป็นเพียงจุดเล็กๆ แต่ด้วยความที่ปัญหาระหว่างฮ่องกงกับจีนสะสมมานาน และคนฮ่องกงมีปมในใจอยู่แล้ว ว่ารัฐบาลจีนพยายามลิดรอนสิทธิเสรีภาพทางการเมือง ร่างกฎหมายดังกล่าวจึงกลายเป็น “ชนวนเหตุ” ที่จุดติดม็อบฮ่องกงขึ้นมา
ผู้ประท้วงในฮ่องกงพยายามชูประเด็นเรื่อง “สิทธิพลเรือนขั้นพื้นฐาน” พร้อมกับเรียกร้องให้ สภาคองเกรสของ “สหรัฐ” ผ่านร่างกฎหมายว่าด้วย “การปกป้องสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย” ซึ่งไม่ต่างจากการเขี่ยบอลให้คนอื่นยิงประตูตัวเอง และก็เป็นไปตามคาด เพราะปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐ ลงมติรับรองร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง (Hong Kong Human Rights and Democracy Act) เพื่อแสดงการสนับสนุนผู้ประท้วงในฮ่องกง
กฎหมายดังกล่าวที่สหรัฐ ออกมาเป็นการมอบอำนาจแก่รัฐบาลสหรัฐ ในการออกมาตรการลงโทษเจ้าหน้าที่ฮ่องกงและรัฐบาลจีนที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของฮ่องกง รวมถึงการอายัดทรัพย์สินของบุคคลเหล่านั้นในสหรัฐ หรือปฏิเสธการออกวีซ่าให้กับบุคคลที่ต้องการเดินทางไปสหรัฐ
นอกจากนี้ สภาล่างของสหรัฐ ยังผ่านร่างกฎหมาย Protect Hong Kong Act ซึ่งเป็นอีกมาตรการที่จะปกป้องฮ่องกง โดยมีข้อบัญญัติห้ามการส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ใช้ในกองทัพ รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ใช้ควบคุมฝูงชนให้กับรัฐบาลฮ่องกง
แน่นอนว่า ร่างกฎหมายเหล่านี้ ย่อมสร้างความไม่พอใจกับรัฐบาลจีน โดยทันทีที่สภาผู้แทนสหรัฐผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว รัฐบาลจีนออกมาตอบโต้แบบทันควัน โดยระบุว่าถ้าร่างกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย จีนก็จะออกมาตรการตอบโต้ที่ทัดเทียมกัน เพื่อปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์ของจีน
ไม่มีใครรู้ว่าพัฒนาการของเรื่องนี้จะไปทางใด แต่การผ่านร่างกฎหมายเหล่านี้ของสภาสหรัฐ ไม่ต่างจากการพัดไฟร้าวฉานระหว่าง “สหรัฐ” และ “จีน” ที่ดูเหมือนจะเบาลงจากสงครามการค้าให้กลับมา “ลุกโชน” ขึ้นอีกครั้ง ซึ่งงานนี้จีนประกาศก้องว่าจะไม่ยอมให้ใครมาแยกฮ่องกงออกจากจีน โดย ประธานาธิบดี “สีจิ้นผิง” ถึงกับเอ่ยปากเองว่า “ใครก็ตามที่พยายามจะแยกจีนออกจากส่วนใดส่วนหนึ่งของประเทศ จะต้องพบจุดจบด้วยการกลายเป็นซากศพที่แหลกเหลวและกระดูกที่แตกเป็นเสี่ยงๆ” ...น้อยครั้งที่ “สีจิ้นผิง” จะพูดในลักษณะนี้ สะท้อนให้เห็นว่า คราวนี้จีนเอาจริงและคงไม่ยอมให้ใครมาข่มเหงง่ายๆ ดังนั้นหากสหรัฐยังกระตุกหนวดมังกรแรงๆ แบบนี้ คงไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโลกแน่นอน