ตลาดหุ้น-ตลาดเงินจีนยังไม่คลายเสน่ห์
ตลาดหุ้นและตลาดเงินจีนยังไม่คลายเสน่ห์ โดยหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากยูบีเอส โกลบอล เวลธ์ เมเนจเมนท์ กล่าวว่า จีนยังคงเป็นตลาดที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนทั่วโลก ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง
ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และเศรษฐกิจจีนขยายตัวในอัตราต่ำที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ทำให้เกิดเสียงวิพาษ์วิจารณ์ว่า เสน่ห์ด้านการลงทุนของจีนอาจจะเบาบางลง
แต่ล่าสุด นางหู หยี่ฟาน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากยูบีเอส โกลบอล เวลธ์ เมเนจเมนท์ กล่าวว่า จีนยังคงเป็นตลาดที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนทั่วโลก ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง และสถานการณ์ต่างๆที่ยังคงไม่แน่นอน
นางหู กล่าวว่า การที่หุ้น A-share ของจีนได้รับการเพิ่มน้ำหนักในการคำนวณดัชนีเอ็มเอสซีไอ ซึ่งเป็นดัชนีตลาดหุ้นระดับโลกนั้น จะเป็นแรงจูงใจให้นักลงทุนทั่วโลกเข้ามาเพิ่มพอร์ทการลงทุนในตลาดหุ้นจีน ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่อันดับสองของโลก
สำหรับผลกระทบของข้อพิพาทการค้าที่มีต่อตลาดหุ้นจีนนั้น นางหูกล่าวว่า จีนยังคงรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวได้ดีเมื่อเทียบกับบรรดาประเทศตลาดเกิดใหม่ เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการค้ามีผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียนแค่ในวงจำกัดเท่านั้น ซึ่งบริษัทจดทะเบียนเหล่านี้พึ่งพาตลาดภายในประเทศเป็นส่วนใหญ่
นางหู ยังกล่าวด้วยว่า ตลาดพันธบัตรจะกลายเป็นแม่เหล็กขนาดใหญ่ที่สามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า ขณะที่สกุลเงินหยวนของจีนคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้ นางหูคาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมไฮเทค เช่นเทคโนโลยีทางการเงิน (ฟินเทค), โครงข่าย 5จี และอุตสาหกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภคนั้น จะสามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติได้เช่นกัน
ยูบีเอส คาดการณ์ว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2563 จะอยู่ที่ระดับ 3% จากระดับ 3.1% ของปี 2562 ขณะเดียวกันคาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่จะดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 4.6% จากระดับ 4.2%
แม้นักวิเคราะห์จากยูบีเอส มองว่าจีนยังคงเป็นตลาดที่น่าสนใจในสายตานักลงทุน แต่ในส่วนของจีนเอง พยายามหามาตรการต่างๆรับมือภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ที่ล่าสุด นายจาง ซูฉุน รองผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยของธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) เปิดเผยว่า จีนยังมีโอกาสที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงิน แต่ไม่ควรจะนำมาใช้แบบสุรุ่ยสุร่าย
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แบงก์ชาติจีน เปิดเผยว่า เศรษฐกิจของจีนยังคงมีความยืดหยุ่น สามารถปรับตัวและฟื้นตัวได้ดี แม้ว่าจะเผชิญกับแรงกดดันต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น
ธนาคารกลางจีน ระบุในรายงานว่า ด้วยเสถียรภาพทางการเงินว่า ภาคครัวเรือนของจีนออมเงินมากขึ้น ขณะที่ภาคธุรกิจยังคงสดใส ส่วนสถาบันการเงินหลัก ๆ ปฏิบัติหน้าที่ได้ดี และมีเครื่องมือด้านนโยบายที่มากเพียงพอ โดยพีบีโอซีจะเดินหน้าปรับปรุงอุปทานการเงิน และการประสานงานเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่แท้จริง ควบคู่ไปกับการป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน
ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และคณะรัฐมนตรีจีน ได้ร่วมกันออกนโยบายการพัฒนาการค้าให้มีคุณภาพในระดับสูง โดยภายในปี 2565 จีน ตั้งเป้าที่จะเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างการค้า และการปรับปรุงประสิทธิภาพการค้าอย่างมีนัยสำคัญ ตลอดจนสร้างระบบการประเมินการพัฒนาด้านการค้าให้อยู่ในระดับสูง
แนวทางดังกล่าว เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเร่งการพัฒนาบริการใหม่ๆที่ทันสมัย โดยเฉพาะบริการที่เกี่ยวข้องกับการผลิต ในขณะที่บริการที่ทันสมัยเหล่านี้จะต้องเกี่ยวพันกับอุตสาหกรรมการผลิตที่ทันสมัยอย่างจริงจัง
นอกจากนี้ จีนจะยกระดับการผลิตและการดำเนินการเพื่อวิจัยและออกแบบ บริการด้านการตลาดและการบริหารแบรนด์ ตลอดจนการสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านการส่งออก ทั้งยังสนับสนุนให้มีการประสานงานกันในด้านการพัฒนาการค้าและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะมีการควบคุมการส่งออกผลิตภัณฑ์ ที่ก่อให้เกิดมลภาวะและใช้พลังงานสูงอย่างเข้มงวดด้วย