อินโดฯ ฟ้องอียูเล็งเลิกใช้ไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์ม
อินโดนีเซียยื่นฟ้องอียูต่อองค์การการค้าโลก กรณีเตรียมห้ามรถยนต์ใช้ไบโอดีเซลผลิตจากน้ำมันปาล์ม
นายอากุส สุปาร์มันโต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าอินโดนีเซีย แถลงเมื่อวันอาทิตย์ (13 ธ.ค.) ว่า อินโดนีเซียยื่นเรื่องขอปรึกษาอย่างเป็นทางการกับอียู เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ซึ่งเป็นกระบวนการเริ่มต้นของการฟ้องร้อง
นายอิมาน ปัมบักโย อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ อินโดนีเซีย ระบุว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลจาการ์ตาเคยพยายามประชุมทวิภาคีเพื่อบรรลุข้อตกลงกับอียู แต่ไม่สำเร็จ การยื่นฟ้องกับดับเบิลยูทีโอเป็นการยืนยันท่าทีของอินโดนีเซียต่อนโยบายของอียู ซึ่งเขาหวังว่าจะได้ทางออกที่ดีที่สุด
ความเคลื่อนไหวนี้อาจทำให้ข้อพิพาทการค้าบานปลาย ระหว่างอินโดนีเซีย ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่สุดของโลก กับอียูซึ่งมีแผนเลิกใช้พลังงานชีวภาพภายในปี 2573 อ้างว่าการผลิตน้ำมันปาล์มทำให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่าอย่างกว้างขวาง
ก่อนหน้านี้อียูเคยเก็บภาษีไบโอดีเซลจากอินโดนีเซียที่รัฐบาลอุดหนุนแล้ว อ้างว่าเพื่อสร้างความเป็นทำให้กับผู้ผลิตของอียู ซึ่งอินโดนีเซียมองว่า นี่เป็นการเลือกปฏิบัติต่อการส่งออกน้ำมันปาล์มของอินโดนีเซีย
ขณะที่เพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกก็ขู่ว่าจะฟ้องอียูต่อดับเบิลยูทีโอเช่นกัน
นางสาวเทเรซา ก๊ก รัฐมนตรีผู้กำกับดูแลน้ำมันปาล์มของมาเลเซีย เผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า เธอจะไปยุโรปในเดือน มี.ค. เพื่อจูงใจทางการยุโรปให้เปลี่ยนแนวทาง หลังจากนั้นมาเลเซียอาจจะไม่ฟ้องก็ได้
ทั้งนี้ น้ำมันปาล์มถือเป็นน้ำมันพืชที่นำไปใช้อย่างกว้างขวางที่สุดในโลก เป็นส่วนผสมหลักในผลิตภัณฑ์หลายชนิดตั้งแต่อาหารไปจนถึงเครื่องสำอาง
แต่นักสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า น้ำมันปาล์มเป็นสาเหตุของการตัดไม้ทำลายป่า ป่าฝนเขตร้อนผืนใหญ่มหึมาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถูกตัดในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา เพื่อแผ้วถางที่ดินทำสวนปาล์ม