‘COVID-19’ สร้างความเสียหายจีดีพี 'จีน' กว่า ‘ซาร์ส’ หลายเท่า
นักเศรษฐศาสตร์ คาดมูลค่าความเสียหายจีดีพีทางเศรษฐกิจจีน จากไวรัสโคโรน่าระบาดอาจมากกว่าโรคซาร์ส 3-4 เท่า
ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยในออสเตรเลีย คาดการณ์ว่า มูลค่าความเสียหายจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นในตอนนี้ อาจมากกว่าเม็ดเงินที่สูญเสียไปเมื่อครั้งรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงหรือซาร์ส ในปี 2546 มากถึง 3-4 เท่า
นายวอร์ริค แมคคิบบิน ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาแห่งชาติออสเตรเลียในกรุงแคนเบอร์รา กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วตลอดระยะเวลา 17 ปีที่ผ่านมา ทำให้การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าครั้งนี้ มีแนวโน้มที่จะสร้างความเสียหายต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกมากกว่าวิกฤติการณ์ด้านสุขภาพที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้
“นี่เป็นเพียงการคำนวณแบบคณิตศาสตร์ เคยมีผลกระทบต่อจีดีพีมหาศาล ปรากฏให้เห็นมาแล้วเมื่อครั้งโรคซาร์สแพร่ระบาด และในครั้งนั้น เศรษฐกิจจีนก็มีการชะลอตัวเกิดขึ้น ส่วนในขณะนี้เศรษฐกิจจีนมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ความสูญเสียจึงมีโอกาสที่จะมากมายกว่านั้นอีกเป็นมูลค่านับพันล้านดอลลาร์” นายแมคคิบบินกล่าว
พร้อมกับระบุว่า แม้จะยังคงไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายออกมาเป็นตัวเลขที่แน่นอนได้เนื่องจากวิกฤติยังคงดำเนินอยู่ แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในตอนนี้ก็คือ ความเปลี่ยนแปลงด้านจิตวิทยา เช่น ความตื่นตระหนกในเรื่องเศรษฐกิจ ที่ปรากฎขึ้นมากกว่าความกังวลในเรื่องของการเสียชีวิตจากโรค
ข้อมูลจากประเทศต่างๆทั่วโลกล่าสุดระบุว่า จำนวนผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกในขณะนี้มีจำนวนมากกว่าผู้ที่ติดเชื้อโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงหรือโรคซาร์สในปี 2545-2546
นักวิเคราะห์เตือนว่า เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกมากกว่าโรคซาร์ส เนื่องจากขณะนี้จีนมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ขึ้นมากกว่าในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าเชื้อไวรัสโคโรน่าจะฉุดเศรษฐกิจจีนลดลง 1% ในไตรมาสแรก