'SkillsFuture' โครงการพัฒนาคนยกแผง ของ 'สิงคโปร์'
ส่องโครงการ SkillsFuture ของสิงคโปร์ ที่มุ่งเน้นยกระดับการพัฒนาคนทุกวัยทุกลุ่มให้มีศักยภาพ เพิ่มจากเดิมที่มุ่งพัฒนาเพียงวัยแรงงานเป็นหลัก
สิงคโปร์เป็นประเทศที่น่าสนใจเสมอเมื่อเราคิดว่าเป็นประเทศเล็กๆ ไม่ได้มีทรัพยากรอะไรมากมาย มีเพียงคนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ และทุกวันนี้สิงคโปร์ก็ไม่หยุดยั้งในการยกระดับพัฒนาคนให้มีทักษะแห่งอนาคต
สิงคโปร์ได้เริ่มพัฒนาทักษะคนวัยทำงานด้วยโครงการ SkillsFuture Credit มาตั้งแต่เดือน ม.ค.2559 เพื่อให้ชาวสิงคโปร์ทุกคนที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไปรับเครดิตคนละ 500 ดอลล่าร์สิงคโปร์เอาเงินนี้ไปใช้กับหลักสูตรของรัฐบาลที่ได้รับอนุมัติทำให้คนทำงานเรียนรู้พัฒนาตัวเองต่อเนื่องได้ แม้ว่าจะเรียนจบมาแล้วก็ตาม โดยเครดิตนี้จะไม่หมดอายุและรัฐบาลสิงคโปร์จะเติมเงินเป็นระยะให้ แต่แลกเป็นเงินไม่ได้ โอนให้คนอื่นไม่ได้
สิงคโปร์ขับเคลื่อนเรื่องการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) มากที่สุดประเทศหนึ่งก็ว่าได้ เอาจริงเอาจังมากถึงขนาดกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติที่สำคัญมีมาตรการและโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมด้วย โดยมีโปรแกรมที่จะช่วยให้ชาวสิงคโปร์ทุกคนได้พัฒนาทักษะให้ลึกขึ้น หรือกว้างขึ้นเพื่อให้สามารถเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
ทุกวันนี้สิงคโปร์จึงไม่ได้เจาะกลุ่มพัฒนาทักษะให้กับคนวัยทำงานเท่านั้นอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่ เน้นย้ำความสำคัญถึงชาวสิงคโปร์ทุกๆ คน งานทุกงาน ในทุกช่วงชีวิตว่ามีความสำคัญหรือพูดง่ายๆ พัฒนาคนแบบยกแผง ผ่านโครงการใหญ่หนึ่งที่ชื่อ SkillsFuture แม้แต่นักเรียน คนธรรมดาทั่วไปไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรอยู่ หรือมีการศึกษาเดิมมามากน้อยเพียงใด ก็สามารถมีอนาคตที่ดีขึ้นได้ด้วยทักษะความชำนาญและการเรียนรู้ตลอดชีวิตดังคำกล่าวที่ว่า Your skills. Your asset. Your future.
SkillsFuture นับเป็นการขับเคลื่อนระดับชาติที่มุ่งสร้างให้เกิดโอกาสแก่ชาวสิงคโปร์ในการพัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่ตลอดชีวิต ภายใต้การกำกับดูแลของสภาเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคต (The Future Economy Council: FEC)โดยต้องการเน้นให้คนมีทักษะการเรียนรู้มากกว่าใบปริญญานอกจากนี้โครงการนี้ยังมีส่วนช่วยผลักดันการพัฒนาของสิงคโปร์สู่เศรษฐกิจขั้นสูง (Advanced Economy)และสังคมเสมอภาค(Inclusive Society)อีกด้วย
ที่ผ่านมา เราคงยังได้ยินประโยคที่ว่า “ตัวเราไม่ได้มีทางเลือกอะไรมากนักหรอก” จากคนที่มีการศึกษาน้อย ขาดโอกาส ขาดทางเลือก ทำให้ต้องดิ้นรนทำงานหารายได้เลี้ยงตัวไปวันๆ แน่นอนว่าการที่คนเรามีทางเลือกหลากหลายทาง ย่อมดีกว่าการไม่มีทางเลือก ที่น่าสนใจก็คือ สิงคโปร์ไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับการสร้างโอกาส สร้างทางเลือกเท่านั้น ทว่ายังมองว่าทางเลือก (choices) ที่ชาวสิงคโปร์คนหนึ่งๆ เลือกทั้งเรื่องการศึกษาหรืออาชีพการงานควรนำไปสู่โอกาสการเพิ่มศักยภาพและพัฒนาทักษะความสามารถ เพื่อตอบสนองความท้าทายโลกอนาคตและทำให้แต่ละคนประสบความสำเร็จในเส้นทางชีวิตด้วย
โครงการ SkillsFuture มีบทบาทสำคัญในเรื่องการศึกษา ทักษะ อาชีพให้กับคนทุกวัยมีทั้งระบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยช่วยให้แต่ละคนมีทางเลือกในการศึกษาการฝึกอบรมและอาชีพ รวมทั้งพัฒนาระบบการศึกษาและการฝึกอบรมที่มีคุณภาพสูงแบบบูรณาการที่ตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลานอกจากนี้ยังส่งเสริมการรับรู้ของนายจ้างและการพัฒนาอาชีพตามทักษะและความเชี่ยวชาญตลอดจนส่งเสริมวัฒนธรรมที่สนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต
โปรแกรมของ SkillsFuture ตอบโจทย์คนกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมสำหรับนักเรียนพนักงานที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน พนักงานระดับกลาง นายจ้างผู้ให้บริการฝึกอบรมและโปรแกรมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ตัวอย่างเช่น โปรแกรมสำหรับนักเรียนก็จะให้คำแนะนำการตัดสินใจเลือกการศึกษาและเส้นทางอาชีพที่เหมาะสมวางแผนอนาคต ช่วยให้เกิดการค้นพบสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเอง โดยสะท้อนจากจุดแข็งและความสนใจในแต่ละช่วงชีวิตช่วยให้มีโอกาสทำงานที่เสริมต่อทักษะและความสามารถสำหรับพนักงานมีหลักสูตรทักษะใหม่ๆ ทักษะแห่งอนาคตให้เลือกเข้ารับการอบรม
ตัวอย่างชุดทักษะแห่งอนาคต (SkillsFuture Series) ที่สิงคโปร์จัดเป็นหลักสูตรฝึกอบรมระยะสั้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเน้นไปที่8 หมวดหมู่ชุดทักษะแห่งอนาคต คือ การวิเคราะห์ข้อมูล(Data Analytics ) การเงิน(Finance) บริการที่เปิดใช้งานเทคโนโลยี(Tech-Enabled Services) สื่อดิจิทัล(Digital Media ) ความปลอดภัยทางไซเบอร์(Cybersecurity ) ความเป็นผู้ประกอบการ(Entrepreneurship) การผลิตขั้นสูง(Advanced Manufacturing) และการแก้ปัญหาในเมือง(Urban Solutions) โดยการเรียนรู้ทักษะแต่ละหมวดนั้นยังแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือหลักสูตรพื้นฐาน หลักสูตรระดับกลาง และหลักสูตรขั้นสูง ผู้ที่สนใจสามารถใช้เครดิตที่ตนเองมีจากSkillsFuture Credit มาเรียนได้
เรามองว่านโยบายการพัฒนาคนแบบนี้ดีเพราะพัฒนาคนให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงโลกอนาคต และถ้าตัวคุณมีทักษะแล้ว ทักษะของคุณ จะเป็นสมบัติติดตัวคุณ และเป็นอนาคตของคุณ