จีนยึดหน้ากากคุณภาพต่ำ ‘89 ล้านชิ้น’
จีนยึดหน้ากากอนามัยด้อยคุณภาพ 89 ล้านชิ้น หลังจากถูกครหาเรื่องส่งออกอุปกรณ์ป้องกันตัวไม่ได้คุณภาพไปทั่วโลก
นางกาน หลิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานกำกับดูแลตลาดแห่งรัฐจีนแถลงว่า เมื่อวันศุกร์ (24 เม.ย.) คณะกรรมการได้ตรวจสอบร้านค้าเกือบ 16 ล้านราย ยึดหน้ากากอนามัยด้อยคุณภาพกว่า 89 ล้านชิ้น อุปกรณ์ป้องกันอันตราย 418,000 ชิ้น น้ำยาฆ่าเชื้อไม่ได้มาตรฐานมูลค่ากว่า 7.6 ล้านหยวน
เบื้องต้นยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสินค้าที่ถูกยึดได้เหล่านี้มีปลายทางที่ประเทศใด และเพื่อกำจัดสินค้าไร้คุณภาพ วานนี้ (25 เม.ย.) กระทรวงพาณิชย์จีนเพิ่งออกกฎใหม่ การส่งออกหน้ากากแม้ไม่ใช่ทางการแพทย์ก็ต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพทั้งของจีนและนานาประเทศ ผู้ส่งออกต้องยื่นเอกสารรับรองให้ชัดเจนว่า สินค้านั้นได้มาตรฐานของประเทศปลายทาง
จีนต้องออกกฎเข้มงวดขึ้นหลังจากหลายประเทศ เช่น สเปน เนเธอร์แลนด์ สาธารณรัฐเช็ก และตุรกี จำเป็นต้องเรียกคืนหน้ากากคุณภาพต่ำหลายแสนชิ้นรวมทั้งอุปกรณ์ป้องกันอันตรายจำนวนหนึ่งที่นำเข้าจากจีน
สัปดาห์ก่อนรัฐบาลแคนาดาเผยว่า หน้ากากราว 1 ล้านชิ้นที่ซื้อมาจากจีนไม่ได้มาตรฐานพอให้แพทย์นำไปใช้
เดือนก่อนกระทรวงสาธารณสุขเนเธอร์แลนด์ต้องเรียกคืนหน้ากากจีน 5 แสนชิ้นที่จัดส่งไปให้โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว หลังถูกร้องเรียนว่า ปิดหน้าไม่ได้ หรือตัวกรองชำรุด
นายหลี่ จิ้งเฉียน จากกระทรวงพาณิชย์แถลงว่า จีนผลิตหน้ากากได้วันละกว่า 116 ล้านชิ้น ปีนี้ส่งออกไปแล้วกว่า 1 พันล้านชิ้น ทั้งยังลงนามส่งออกวัสดุทางการแพทย์มูลค่า 1.41 พันล้านดอลลาร์ไปให้ 74 ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ 6 องค์กร
เว็บไซต์ข้อมูลธุรกิจเตี้ยนหยานชา รายงานว่า สองเดือนแรกของปีนี้ โรงงานใหม่8,950 แห่งเริ่มผลิตหน้ากากในจีน
ไม่กี่วันก่อนนายจิ้นไห่ เจ้าหน้าที่ศุลกากรเผยว่า แม้ทางการจะปราบปรามหนัก แต่ธุรกิจก็เดินหน้าลักลอบผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่อไป เพราะเป็นหนทางหาเงินอย่างรวดเร็ว
ข้อมูลถึงกลางเดือน เม.ย. การท่าเรือจีนยึดหน้ากากอนามัยไม่ได้คุณภาพเตรียมส่งออกขายต่างประเทศไปแล้วกว่า 31.6 ล้านชิ้น ชุดป้องกันอันตราย 509,000 ชุด