โควิดทุบยอดขาย 'ลีวายส์' สหรัฐวูบ 62%

บริษัท ลีวาย สเตราส์ แอนด์ โค ( Levi Strauss & Co) ผู้ผลิตกางเกงยีนส์ และสินค้าไลฟ์สไตล์ภายใต้แบรนด์ลีวายส์ (Levi’s) ของสหรัฐ เป็นผู้ประกอบการธุรกิจอีกรายที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ของปี 2563 ทรุดลง โดยบริษัทมีรายได้สุทธิอยู่ที่ 498 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2562 ถึง 62% และมียอดขาดทุนอยู่ที่ 364 ล้านดอลลาร์ เป็นผลจากยอดขายที่ลดลงเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด -19

สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานอ้างถ้อยแถลงของนาย ชิป เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของลีวายส์ ที่ระบุว่า การระบาดของโควิด-19 ทำให้ยอดขายทั่วโลกของลีวายส์ลดลง สาเหตุเนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของโรคในหลายประเทศ ทำให้บริษัทจำเป็นต้องปิดสาขาชั่วคราว แม้จะมีรายได้ชดเชยจากยอดขายออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นมากถึง 25% แต่ก็ไม่อาจชดเชยกับยอดขายที่ลดลง โดยเฉพาะในทวีปยุโรปที่เป็นตลาดหลัก ลดลงมากถึง 68% ตามมาด้วยตลาดในเอเชียที่ยอดขายลดลงกว่า 61% ขณะที่ตลาดสหรัฐร่วงลง 59%

อีกเหตุผลเป็นเรื่องของเทรนด์ หรือแนวโน้มความนิยม “ยอดขายที่ลดลงส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้คนในโลกแฟชั่นตอนนี้เปลี่ยนเทรนด์การใส่กางเกงยีนส์ รัดรูป ทนทาน มาเป็นกางเกงยีนส์ที่ใส่สบาย และมีรสนิยม” ผู้บริหารของลีวายส์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ลีวายส์จำเป็นต้องปลดพนักงานทั่วโลก 700 อัตรา หรือคิดเป็นสัดส่วน 15% ของพนักงานทั้งหมด เพื่อลดค่าใช้จ่ายลง ซึ่งการปลดพนักงานครั้งนี้ คาดว่าจะทำให้บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้มากถึง 100 ล้านดอลลาร์ในปีนี้

ผู้บริหารของลีวายฯ ยอมรับว่า ยังคงต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะในหลายประเทศที่มีแนวโน้มว่ากำลังจะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นรอบที่สอง ซึ่งผู้บริหารของลีวายฯ กล่าวว่า ถ้าหากโควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้งก็คงจะต้องกลับไปปิดสาขาอีก

มีรายงานว่า ตั้งแต่ที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อุบัติขึ้นในปีนี้ ราคาหุ้นของลีวายส์ดำดิ่งลงไปแล้ว 27% ในช่วง 6 เดือนแรก ทำให้มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดปรับลดลงมาอยู่ที่ 5,500 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 150,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีเงินทุนหมุนเวียนที่ 2,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อสิ้นสุดไตรมาส 2/2563