'เศรษฐกิจโลก' ป่วนหนัก โควิดพุ่ง 17 ล้านคน
โคโรน่าไวรัส ต้นตอโรคโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อแตะ 17 ล้านคน ไม่เพียงแต่กระทบต่อชีวิตของผู้คนทั่วโลก แต่ยังส่งแรงสะเทือนไปถึงภาคเศรษฐกิจโลก เช่นเดียวกับสหรัฐ มหาอำนาจโลกที่มีรายงานเศรษฐกิจไตรมาส 2 ว่าหดตัวถึง 9.5%
ความเสียหายใหญ่หลวงของเศรษฐกิจทั่วโลกผลพวงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ชัดเจนขึ้นทุกวัน ชาติตะวันตกรายงานตัวเลขเศรษฐกิจร่วงหนักเป็นประวัติการณ์ หลายประเทศจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงจนต้องคิดหนักว่าจะเลือกสุขภาพหรือเสถียรภาพทางการเงิน
6 เดือนหลังจากองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เป็นภัยฉุกเฉินโลก ตัวเลขล่าสุดมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 17 ล้านคน
ดับเบิลยูเอชโอเตือนเมื่อวันพฤหัสบดี (30 ก.ค.) ว่า คนหนุ่มสาวก็หนีโควิดไม่พ้น และกำลังช่วยหนุนโควิดผุดขึ้นมาใหม่ในหลายๆ ที่ที่เคยควบคุมโรคได้แล้ว
ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการดับเบิลยูเอชโอ กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงมากในบางประเทศ ส่วนหนึ่งเป็นผลจาก คนหนุ่มสาว “การ์ดตก” ในช่วงฤดูร้อนทางซีกโลกเหนือ
ส่วนผู้เสียชีวิต โควิด-19 คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 668,000 คน และกำลังบีบให้รัฐบาลต้องสร้างสมดุลระหว่างการรักษาชีวิตประชาชนกับป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจเสียหาย
ไม่มีที่ไหนท้าทายมากไปกว่าประเทศที่เสียหายหนักสุดในโลก แต่ก็มีเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลกอย่างสหรัฐ ที่รายงานเศรษฐกิจไตรมาส 2 หดตัว 9.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เลวร้ายสุดเป็นประวัติการณ์ ถ้าเทียบเป็นรายปี เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลง 32.9% หรือเกือบ 1 ใน 3
อีกหลายประเทศเศรษฐกิจก็หดตัวเป็นประวัติการณ์เช่นเดียวกัน เยอรมนี ติดลบ 10.1% เบลเยียมหดตัว 12.2% ออสเตรีย -10.7% และเม็กซิโก -17%
บริษัททั่วโลกล้วนเสียหายเช่นกัน ตั้งแต่โฟล์คสวาเกน บริษัทผลิตน้ำมัน “เชลล์” “ลอยด์” ธนาคารจากอังกฤษ และบริษัทผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของญี่ปุ่น “พานาโซนิค” ล้วนรายงานผลประกอบการขาดทุนอย่างมหาศาล
และเนื่องจากการเดินทางลดลง บริษัทอากาศยานรายใหญ่อย่างแอร์บัสเผยว่า ครึ่งแรกของปีนี้บริษัทหมดเงินสดไปกว่า 1.2 หมื่นล้านยูโร ขาดทุนสุทธิ 1.9 พันล้านยูโร และมีแผนลดการผลิตลง 40%
สวนทางกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่หลายแห่งที่รายงานผลประกอบการดีเกินคาดเมื่อวันพฤหัสบดี เน้นย้ำว่า ผู้บริโภคพึ่งพายักษ์ใหญ่อย่างอเมซอนมากขึ้นในช่วงโควิดระบาด รวมถึงพลังทางเศรษฐกิจอันมหาศาลของบริษัทเหล่านี้
กำไรของแอ๊ปเปิ้ลเพิ่มขึ้น 8% มาอยู่ที่ 1.12 หมื่นล้านดอลลาร์ อเมซอนกำไรเกือบ 2 เท่า ที่ 5.2 พันล้านดอลลาร์ เฟซบุ๊คกำไรเพิ่ม 2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 5.2 พันล้านดอลลาร์
ส่วนสถานการณ์ผู้ติดโควิดทั่วโลกกำลังเข้าสู่หมุดหมาย 3 แสนคนต่อวัน เมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่มีทีท่าชะลอลงเลย เวลาเพียงแค่ 100 ชั่วโมงก็มีผู้ติดเชื้อเพิ่มถึง 1 ล้านคนแล้ว
เมื่อก่อนเวลา 08.30 น. วันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น สหรัฐรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1,379 คนในรอบ 24 ชั่วโมง ติดเชื้อเพิ่ม 72,238 คน ทั้งยังบันทึกหมุดหมายใหม่ เมื่อเจ้าบัดดีสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด วัย 7 ปี สุนัขเลี้ยงตัวแรกของสหรัฐที่ติดโควิด ได้ตายลงหลังจากทนทุกข์ทรมานจากอาการหายใจลำบากและอาการอื่นๆ มานานหลายเดือน
ในญี่ปุ่น ผู้ว่าราชการกรุงโตเกียวขอให้ร้านอาหาร บาร์ และร้านคาราโอเกะปิดเร็วขึ้น เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์
สวีเดนที่ถูกโลกจับตามอง เพราะใช้แนวทางควบคุมไวรัสเบามือกว่าที่อื่น แถลงว่าจะขอให้ประชาชนทำงานที่บ้านต่อไปจนถึงปีหน้าถ้าเป็นไปได้ ขณะที่จำนวนผู้ติดโควิดในประเทศเกิน 80,000 คนแล้ว
ส่วนเม็กซิโกกลายเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก กว่า 46,000 คน
สองประเทศเกาะที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นที่ชื่นชมของทั้งโลกว่าสกัดไวรัสได้ดี ตอนนี้ได้ออกคำเตือนว่าอย่าชะล่าใจแล้ว
ในออสเตรเลีย เฉพาะรัฐวิกตอเรียรัฐเดียวมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 723 คนเมื่อวันพฤหัสบดี สูงกว่าสถิติทั่วประเทศ 549 คน เมื่อวันจันทร์ (27 ก.ค.)
ส่วนไอซ์แลนด์มีผู้ป่วยโควิดเข้าโรงพยาบาลรายแรกนับตั้งแต่กลางเดือน พ.ค. ทั้งยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 31 คน รัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการรักษาระยะห่างและสวมหน้ากากอีกรอบ จำกัดไม่ให้ประชาชนรวมตัวกันเกิน 100 คน
ฮ่องกงที่ตอนแรกได้รับคำชมเรื่องการรับมือไวรัสเช่นกัน ตอนนี้กำลังพยายามสร้างสมดุลระหว่างความหวาดกลัวการระบาดระลอก 3 ในหมู่ประชากร 7.5 ล้านคน ที่จะทำให้ระบบสาธารณสุขรับไม่ไหว กับการบรรเทาความไม่พอใจของประชาชนเมื่อทางการต้องออกข้อจำกัดรอบใหม่
เพียง 1 วันหลังจากทางการห้ามร้านอาหารเปิดรับลูกค้านั่งในร้าน ก็ต้องรีบยกเลิกคำสั่งกะทันหันให้กลับมาเปิดนั่งรับประทานในร้านได้เหมือนเดิม หลังจากถูกชาวเน็ตรุมกระหน่ำในโลกออนไลน์ด้วยการโพสต์ภาพที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้แรงงาน จำเป็นต้องรับประทานอาหารกันริมทางเดินและในสวน แม้แต่ในสุขาสาธารณะในช่วงที่ฝนตกหนัก
แอฟริกาใต้ก็เจอความลำบากใจแบบเดียวกัน ต้องลดเวลาห้ามออกนอกเคหสถานยามวิกาลลง 1 ชั่วโมง เริ่มต้นที่ 22.00 น. แม้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมาก แต่ก็ต้องทำเพื่อช่วยธุรกิจร้านอาหารที่เสียหายอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม ไอวอรีโคสต์ สวนกระแสประกาศให้บาร์ ไนท์คลับ โรงภาพยนตร์เปิดบริการอีกครั้ง วานนี้ (31 ก.ค.)
ขณะเดียวกันสหภาพยุโรปปรับปรุงบัญชีประเทศปลอดภัยที่ต้องทำทุก 2 สัปดาห์ นักเดินทางจากสหรัฐยังเข้าอียูไม่ได้ ขณะที่แอลจีเรียถูกถอดออกจากบัญชีหลังจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูง
ปัจจุบันประเทศที่อยู่ในบัญชีปลอดภัยของอียู ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา จอร์เจีย ญี่ปุ่น โมร็อกโก นิวซีแลนด์ รวันดา เกาหลีใต้ ไทย ตูนิเซีย และอุรุกวัย และอาจจะรวมจีนได้ถ้าจีนทำแบบเดียวกันกับอียู
ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ในเวียดนาม ล่าสุดเสียสถิติแล้วเมื่อเวียดนามมีผู้เสียชีวิตรายแรกวานนี้ สื่อทางการของเวียดนาม รายงานว่า เจ้าหน้าที่ยืนยันผู้เสียชีวิตรายแรกจากโควิด-19 ที่กลับมาระบาดหนักอีกครั้งในประเทศ จากที่เคยได้รับคำชมจากนานาชาติว่าเวียดนามควบคุมการระบาดได้ดีเยี่ยม
รายงานระบุว่าผู้ป่วยที่เสียชีวิต เป็นชายวัย 70 ปี อยู่ในเมืองฮอยอันทางภาคกลาง และเสียชีวิตหลังเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลนานเกือบ 3 สัปดาห์ด้วยอาการป่วยรุนแรง
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดการระบาดรอบใหม่ในเมืองดานัง แหล่งท่องเที่ยวชายฝั่งยอดนิยมและติดกับเมืองฮอยอัน ทำให้รัฐบาลต้องกลับมาใช้มาตรการเข้มงวดและเฝ้าระวังการระบาดขั้นสูงอีกครั้ง
เช้าวานนี้ กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามประกาศว่าพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่อีก 45 คนในเมืองดานัง ทำสถิติตัวเลขรายวันสูงสุดนับตั้งแต่โควิด-19 ระบาดส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดโควิด-19 ในเวียดนามอยู่ที่ 509 คน
ช่วงต้นปีเวียดนามซึ่งปกครองโดยระบอบคอมมิวนิสต์ เคยได้รับการยกย่องเรื่องการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ด้วยการออกมาตรการเข้มงวดจำกัดการเคลื่อนไหวของประชาชน มาตรการกักกันโรคเป็นวงกว้าง และระบบติดตามกลุ่มเสี่ยงติดเชื้ออันเข้มข้น
เมื่อมีผู้เสียชีวิต จั่น นูห์ ด่วง ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันระบาดวิทยาแห่งชาติ เผยว่า ทางการระดมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ชั้นนำร่วมกับบุคลากรราว 1,000 นายรวมทั้งทหารช่วยรับมือโควิดในดานัง
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีการสร้างโรงพยาบาลสนาม 1 แห่งที่ศูนย์กีฬาดานัง เพื่อเตรียมการรับมือหากสถานการณ์เลวร้ายลง เที่ยวบินเข้าออกเมืองและการขนส่งสาธารณะในดานังปิดบริการไปก่อนหน้านี้แล้ว
ประชาชนได้รับคำแนะนำให้อยู่บ้าน
ในกรุงฮานอย ประชาชนที่เคยไปดานังอย่างน้อย 21,000 คน ได้รับการตรวจหาเชื้อจากชุดตรวจอย่างง่ายแล้ว เช่นเดียวกับที่นครโฮจิมินห์ ที่เป็นเมืองศูนย์กลางธุรกิจ