'ราคาทอง' พุ่งกรอบแคบ แตะนิวไฮรอบ 2 สัปดาห์
ราคาทองคำฟิวเจอร์ปรับขึ้นกรอบแคบในวันอังคาร (1 ก.ย.) หลังดอลลาร์แข็งค่า และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ส่งสัญญาณฟื้นตัว
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือน ธ.ค. ในตลาดนิวยอร์ก เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ (0.02%) ปิดที่ 1,978.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำสถิติแตะระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.
ราคาทองปรับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.21% แตะที่ระดับ 92.3572 เมื่อวันอังคารตามเวลาสหรัฐ
การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้น และมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
ระหว่างการซื้อขายในวันอังคาร ราคาทองทะยานไปแตะถึง 2,001.20 ดอลลาร์ ก่อนที่จะปรับตัวลงในเวลาต่อมา ผลจากข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐของสถาบันจัดการด้านอุปทาน เพิ่มขึ้นเป็น 56.0 ในเดือน ส.ค. สูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2561 จากระดับ 54.2 ในเดือน ก.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 54.5
ตัวเลขดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมาตามผลังผลสำรวจภาคการผลิตที่น่าพึงพอใจจากจีนและยุโรปก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดการณ์ว่า ราคาทองยังคงมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นต่อไป โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศเปลี่ยนแปลงแนวทางในการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ โดยจะเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไปอีกหลายปี
ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัทแอคทีฟเทรดส์ กล่าวว่า แม้ตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่นักลงทุนก็ยังต้องการเพิ่มทองคำในพอร์ตการลงทุน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงหากตลาดหุ้นและตลาดปริวรรตเงินตรากลับมาผันผวนอีกครั้ง