'จีน-สหรัฐ-เกาหลีใต้' หวังญี่ปุ่นได้ผู้นำใหม่ 'สายพิราบ'
เมื่อชินโซ อาเบะนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ลาออกจากตำแหน่ง ประเทศพันธมิตรทั้งหลายต่างรอลุ้นว่าใครจะก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของแดนซากุระ โดยเฉพาะประธานาธิบดีสี จิ้นผิงและประธานาธิบดีเกาหลีใต้อยากให้ผู้นำญี่ปุ่นดำเนินนโยบายต่างประเทศแบบประนีประนอม
หลังจากอาเบะ ประกาศลาออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลด้านสุขภาพเมื่อวันศุกร์ (28ส.ค.)โยชิฮิเดะ ซูกะ วัย 71 ปี หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีก็ประกาศตัวลงสมัครอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 ก.ย.ในฐานะผู้สมัครเพื่อชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรครัฐบาลเสรีประชาธิปไตย(แอลดีพี)คนใหม่ สืบแทนนายกรัฐมนตรีอาเบะ โดยให้คำมั่นว่าจะสืบทอดนโยบายของนายกรัฐมนตรีอาเบะและจะอุทิศทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อทำงานนี้
นอกจากนี้ ซูกะ ซึ่งไม่ได้อยู่ในกลุ่มการเมืองใดๆทั้งสิ้น แต่ก็ได้รับการยอมรับจากแกนนำหลายคนในพรรคว่าจะเป็นคนที่จะสานต่องานของนายกรัฐมนตรีอาเบะได้ เช่น ทาโร อาโสะ รองนายกรัฐมนตรีที่แสดงการสนับสนุนซูกะด้วย
คณะกรรมการบริหารพรรคแอลดีพีจะเปิดประชุมในวันจันทร์ที่ 14 ก.ย.นี้ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ด้วย แต่ก็ได้รับเสียงสนับสนุนจากในสภาด้วย ซึ่งจะมีประชุมสองวันต่อจากนั้น และพรรคแอลดีพีก็ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรอยู่ในขณะนี้ ส่วนวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีอาเบะยังเหลืออยู่อีก 1 ปี จนถึงเดือนก.ย.ปีหน้า
ซูกะ เป็นผู้ประกาศชื่อ “เรวะ” เป็นชื่อรัชสมัยใหม่ของญี่ปุ่นหลังจากสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะขึ้นครองราชย์ ทั้งยังเป็นผู้ผลักดันนโยยาย “ฟรีวีซ่า” ให้ชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นมากขึ้น ส่วนแนวคิดด้านอื่น ๆ แทบไม่ปรากฏ เนื่องจากตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เหมือนการทำหน้าที่แม่บ้านของนายกรัฐมนตรี ทำให้ต้องเดินนโยบายของอาเบะทุกอย่าง
ขณะนี้ มีกระแสคาดการณ์หนักแน่นว่าคนที่น่าจะได้รับคัดเลือกเป็นหัวหน้าพรรคแอลดีพีน่าจะเป็นซูกะ เนื่องจากวิธีการเลือกตั้งภายในพรรค โดยพรรคแอลดีพีได้ลดขั้นตอนของระเบียบการเลือกตั้ง โดยอ้างว่าเพื่อเปลี่ยนผ่านอำนาจได้โดยเร็ว ขณะที่ญี่ปุ่นกำลังรับมือกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และประเด็นเร่งด่วนอื่น ๆ
สมาชิกรัฐสภาในสังกัดพรรคแอลดีพีทั้งหมด 394 คน และตัวแทนสาขาพรรคจากแต่ละจังหวัด จังหวัดละ 3 คนจะลงคะแนนเสียง ไม่ใช่การเลือกตั้งแบบเต็มที่ให้สมาชิกพรรคทุกระดับมากกว่า 1 ล้านคนได้ลงคะแนน ซึ่งวิธีการแบบนี้เป็นการตัดทางของตัวเต็งที่มีฐานเสียงระดับท้องถิ่น เลขาธิการพรรคและกลุ่มขั้วอำนาจต่างๆ ภายในพรรคที่กรุงโตเกียวจะต่อรองและรวบรวมเสียงเฉพาะของ สส. และ สว. ส่งผลให้ซูกะมีโอกาสสูงที่สุดที่จะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนต่อไป
ในส่วนท่าทีของประเทศเพื่อนบ้านหรือประเทศพันธมิตรของญี่ปุ่นนั้น หลังจากอาเบะประกาศลาออก สำนักข่าวซินหัวซึ่งเป็นกระบอกเสียงของทางการจีน ตีพิมพ์บทความสนับสนุนตัวเต็งอีกคนเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของญี่ปุ่นนั่นคือ ชิเกรุ อิชิบะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นว่าเหมาะสมที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำคนต่อไป โดยอ้างผลสำรวจความเห็นของประชาชนที่ต่างก็สนับสนุนให้อิชิบะนั่งเก้าอี้นายกฯ
อิชิบะ อดีตเลขาธิการพรรคแอลดีพี เป็นนักการเมืองจากจังหวัดทัตโตริ ซึ่งมีฐานเสียงหนาแน่นในกลุ่มชนชั้นรากหญ้า และได้รับการสนับสนุนสูงที่สุดจากการหยั่งเสียงภายในพรรคและสื่อมวลชนต่าง ๆ เขาผู้นี้เคยพ่ายแพ้ในการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคให้กับอาเบะถึง 2 ครั้ง จนต้องลาออกจากพรรคและกลับเข้าพรรคอีกครั้งในเวลาต่อมา ส่วนอิชิบะ นอกจากเคยดำรงตำแหน่งรมว.กลาโหมแล้วยังดำรงตำแหน่งรมว.เกษตร ป่าไม้และประมง และรมว.ด้านการฟื้นฟูเศรษฐกิจและปัญหาประชากรลดลง
อิชิบะ เป็นนักการเมืองที่มีความคิดเสรี มีจุดยืนด้านความมั่นคงที่ต้องการให้ญี่ปุ่นพึ่งพาตนเอง มีท่าทีเป็นมิตรต่อจีนเนื่องจากเข้าสู่วงการการเมืองจากการชักชวนของอดีตนายกฯ ทาคูอิ ทานากะ ผู้ซึ่งฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่น-จีน
ส่วนในเกาหลีใต้และในสหรัฐ ต่างแสดงความจำนงค์ว่าอยากให้ผู้นำคนใหม่ของญี่ปุ่น เป็นผู้นำที่ดำเนินนโยบายไม่เข้มงวดมากนัก หรือเป็นผู้นำสายพิราบนั่นเอง โดยเฉพาะเกาหลีใต้ที่ความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นในช่วงนี้ ไม่ค่อยราบรื่นนัก จึงอยากให้ญี่ปุ่นได้ผู้นำที่ดำเนินนโยบายที่ยืดหยุ่นมากกว่านี้ ด้วยความหวังว่าจะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสองประเทศให้ดีขึ้น