รู้จัก ‘จง ซานซาน’ เศรษฐีเบอร์ 1 จีนคนใหม่ ผู้มั่งคั่งจากธุรกิจน้ำดื่ม
เศรษฐีเบอร์ 1 คนใหม่ของจีนถึงคราวเปลี่ยนมือ จากเดิมที่ “แจ็ค หม่า” ครองบัลลงก์นี้มาตลอดหลายปีหลัง แต่ล่าสุด นักธุรกิจน้ำดื่มยักษ์ใหญ่ ผงาดขึ้นเป็นบุคคลร่ำรวยที่สุดในแดนมังกรไปแล้ว
“จง ซานซาน” ผู้ก่อตั้งบริษัท “หนองฟู่ สปริง” (Nongfu Spring) ผู้ผลิตน้ำดื่มและเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดในจีน กลายเป็นมหาเศรษฐีเบอร์ 1 คนใหม่ของประเทศ โดยข้อมูลจากนิตยสารฟอร์บส (Forbes) นับถึงวันที่ 24 ก.ย. ระบุว่า จง มีมูลค่าความมั่งคั่งสุทธิอยู่ที่ 5.72 หมื่นล้านดอลลาร์ แซงหน้าทั้ง “โพนี่ หม่า” แห่งเทนเซ็นต์ และ “แจ็ค หม่า” แห่งอาลีบาบา ซึ่งมีความมั่งคั่ง 5.63 หมื่นล้านดอลลาร์และ 5.04 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามลำดับ
นอกจากนี้ เศรษฐีน้ำดื่มจีนยังไต่อันดับบุคคลที่รวยที่สุดในโลกของฟอร์บส มาอยู่อันดับ 17 ต่อจาก 2 ผู้ร่วมก่อตั้งยักษ์ใหญ่ “กูเกิล” อย่าง “แลร์รี เพจ” และ “เซอร์เก บริน”
ความมั่งคั่งของจง วัย 65 ปีมาจากการที่เขาถือหุ้น 84.4% ในบริษัทหนองฟู่ ซึ่งราคาพุ่งแรงถึง 77% ตั้งแต่เปิดขายหุ้นต่อสาธารณชนครั้งแรก หรือ IPO ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่บริษัทระดมทุนได้ราว 1,100 ล้านดอลลาร์ นับเป็นหนึ่งในการเสนอขาย IPO มูลค่าสูงสุดในตลาดฮ่องกงในปีนี้
นอกจากครองหุ้นในบริษัทน้ำดื่มแล้ว จงยังถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุมใน “ว่านไท่ ไบโอโลจิคอล” (Wantai Biological) บริษัทเวชภัณฑ์ที่อ้างว่าเป็นหนึ่งในบริษัทจีนที่กำลังพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19
หุ้นของว่านไท่ซึ่งจงเข้าซื้อเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว ทะยานกว่า 2,000% แล้วนับตั้งแต่เสนอขาย IPO ในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา นั่นจึงทำให้ความมั่งคั่งของจงยิ่งเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ข้อมูลของฟอร์บสยังสอดคล้องกับข้อมูลจากดัชนีมหาเศรษฐีพันล้านบลูมเบิร์ก (Bloomberg Billionaires Index) ซึ่งระบุว่า ความมั่งคั่งสุทธิของผู้ก่อตั้งบริษัทหนองฟู่ สปริง แตะที่ 5.87 หมื่นล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 23 ก.ย. หรือมากกว่าแจ็ค หม่า แชมป์เก่าเศรษฐีเบอร์ 1 ของจีนถึงกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์
ตอนนี้ จง เจ้าของสมญา “หมาป่าเดียวดาย” กลายเป็นมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งที่สุดอันดับ 2 ในเอเชีย เป็นรองเพียง “มูเกช อัมบานี” มหาเศรษฐีชาวอินเดีย และอันดับ 17 ของโลก
ขณะเดียวกัน เจ้าของยักษ์ใหญ่น้ำดื่มรายนี้มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นเฉพาะในปีนี้ปีเดียว เกือบ 5.2 หมื่นล้านดอลลาร์ มากกว่ามหาเศรษฐีแทบทุกคนในโลก ยกเว้น “เจฟฟ์ เบซอส” ผู้ก่อตั้งบริษัทอเมซอน (Amazon) ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกออนไลน์ และ “อีลอน มัสก์” ผู้ก่อตั้งบริษัทเทสลา อิงค์ (Tesla Inc.) ผู้ผลิตรถพลังงานไฟฟ้าชื่อดัง
- ที่มาฉายา “หมาป่าเดียวดาย”
จง ซึ่งก่อตั้งหนองฟู่ สปริง เมื่อปี 2539 ได้รับการขนานนามว่า หมาป่าเดียวดาย จากการที่เขาตีตัวห่างจากการเมืองและกลุ่มธุรกิจที่ชอบเข้าสังคม
ในอดีต เขาเคยทำงานทั้งในอุตสาหกรรมก่อสร้างและสื่อสารมวลชน ก่อนหันมาเปิดธุรกิจน้ำดื่มและผลิตยา จนทำให้ตัวเองเป็นหนึ่งในเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกอย่างในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ฉายาหมาป่าเดียวดายยังได้มาจากการที่จงเป็นมหาเศรษฐีเพียงคนเดียวใน 5 เศรษฐีรวยที่สุดในจีน ที่ไม่ได้มาจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีหรืออสังหาริมทรัพย์ซึ่งครองอันดับต้น ๆ ของประเทศมาตลอด
- กระจายความมั่งคั่ง
นอกจากสร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองแล้ว จงยังแบ่งปันความสำเร็จและความร่ำรวยนี้ให้กับผู้ถือหุ้นคนอื่น ๆ ด้วย
การนำบริษัทหนองฟู่จดทะเบียนในตลาดหุ้นทำให้เกิดเศรษฐีหน้าใหม่ 68 คนซึ่งถือหุ้นในสัดส่วนตั้งแต่ 0.0063% ถึง 1.4% ในจำนวนนี้หลายสิบคนเข้าร่วมถือหุ้นเมื่อปีที่แล้ว ช่วงที่จงและบริษัทโฮลดิ้งของเขาโอนหุ้น 0.79% ของหนองฟู่ให้กับบุคคล 33 คน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการปันผลให้พนักงาน
ผู้ได้รับประโยชน์รายใหญ่ที่สุด คือ เหล่าสมาชิกตระกูลจง ไล่ตั้งแต่ หลู เสี่ยวเว่ย พี่สาวภรรยาของจง ซึ่งถือหุ้นในหนองฟู่ 1.4% มูลค่ารวม 432 ล้านดอลลาร์ ส่วนพี่น้องอีก 2 คนของเขาถือหุ้นอีกคนละ 428 ล้านดอลลาร์
ขณะที่น้องสาวของจงอย่าง จง เสี่ยวเสี่ยว และ จง ซ่วนซ่วน ถือหุ้นหนองฟู่ 428 ล้านดอลลาร์และ 214 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ ส่วนภรรยาและลูก ๆ ของจงไม่อยู่ในรายชื่อผู้ถือหุ้น แม้เอกสาร IPO ของบริษัทระบุชื่อบุตรชายของจงเป็นกรรมการที่ไม่ได้เป็นผู้บริหาร
- การเติบโตของธุรกิจน้ำดื่ม
บริษัทหนองฟู่ สปริงของจง จำหน่ายน้ำดื่มบรรจุขวดครั้งแรกในปี 2540 โดยนำน้ำจากแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติในมณฑลเจ้อเจียงที่ติดกับเซี่ยงไฮ้มาผลิต จากนั้นบริษัทได้ขยายไปยังแหล่งน้ำธรรมชาติ 10 แห่งทั่วประเทศจีน
ระหว่างปี 2555-2562 หนองฟู่ประกาศตัวว่าเป็นผู้นำตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดในแดนมังกร ด้วยส่วนแบ่ง 21% และมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 2.4 หมื่นล้านหยวนเมื่อปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 37% จากปี 2560
นอกจากนี้ หนองฟู่ยังเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่ม (soft drink) โดยสัดส่วนราว 40% ของรายได้บริษัทในปี 2562 มาจากผลิตภัณฑ์บรรจุขวดอย่างชา น้ำผสมวิตามิน และน้ำผลไม้
บริษัทน้ำดื่มของเศรษฐีเบอร์ 1 คนใหม่ของจีน เผยในหนังสือชี้ชวนถึงนักลงทุนว่า การระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 และน้ำท่วมในหลายมณฑลของจีน สร้างความเสียหายหนักต่อยอดขายน้ำ
อย่างไรก็ตาม เควิน คิม นักวิเคราะห์จากบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ มองว่า ปัจจัยเหล่านี้น่าจะสร้างความปั่นป่วนต่อธุรกิจหนองฟู่ “เพียงชั่วคราว” เท่านั้น
คิม เสริมว่า กระแสให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและรายได้ที่สูงขึ้นของผู้บริโภคชาวจีน หมายความว่า เครื่องดื่มน้ำแร่ธรรมชาติของหนองฟู่ จะฟื้นตัวได้ดีกว่าน้ำดื่มประเภทอื่น ๆ ในช่วงหลายปีข้างหน้า
---------------------
อ้างอิง: CNBC, Bloomberg, Forbes, The Print, Standard (Hong Kong)