'เจแอนด์เจ'ระงับทดลองวัคซีนต้านโควิด

เจแอนด์เจ แถลงเมื่อวันจันทร์(12ต.ค.)ว่าบริษัทได้ตัดสินใจระงับการทดลองวัคซีนต้านโรคโควิด-19 เป็นการชั่วคราว สืบเนื่องจากอาสาสมัครที่เข้ารับการทดลองมีอาการป่วยไม่ทราบสาเหตุหลังจากรับการฉีดวัคซีนแล้ว

แถลงการณ์ของเจแอนด์เจ ระบุว่า คณะกรรมการตรวจสอบด้านความปลอดภัย คณะกรรมการข้อมูลอิสระ คณะนักวิทยาศาสตร์ด้านความปลอดภัยและคณะแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการทดลองวัคซีนได้ทำการประเมินและพิจารณาอาการป่วยของอาสาสมัครที่เข้ารับการฉีดวัคซีนอย่างละเอียดจึงพบว่าอาสาสมัครกลุ่มนี้มีอาการป่วยที่ทีมแพทย์ยังหาคำตอบเกี่ยวกับต้นตอที่ทำให้ป่วยไม่ได้

สิ่งที่เกิดขึ้นกับเจแอนด์เจ มีลักษณะคล้ายกับกรณีของบริษัทแอสตร้าเนเซนก้า ที่ตัดสินใจระงับการทดลองวัคซีนในกลุ่มอาสาสมัครไว้ก่อนเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา หลังพบว่าผู้เข้ารับการฉีกวัคซีนในสหราชอาณาจักรมีอาการป่วยที่ไม่สามารถอธิบายได้

เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา เจแอนด์เจ ประกาศว่ามีอาสาสมัครเข้าร่วมการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19ในขั้นสุดท้ายจำนวน 60,000 คน โดยมาจากในสหรัฐ อาร์เจนตินา บราซิล ชิลี โคลอมเบีย เม็กซิโก เปรู และแอฟริกาใต้

นอกจากโครงการนี้แล้ว บริษัทยาหลายแห่งทั้งในสหรัฐและประเทศอื่นๆ เช่น โครงการของ โมเดร์นา และไฟเซอร์ก็เริ่มเข้าสู่ขั้นสุดท้ายของการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19เช่นกัน

สำหรับวัคซีนของเจแอนด์เจนั้น รายงานข่าวระบุว่า อาสาสมัครจะได้รับการฉีดเพียงครั้งเดียวในการทดลองขั้นสุดท้าย ซึ่งต่างจากของที่อื่นซึ่งจะต้องมีการฉีด 2 ครั้ง และจุดนี้ทำให้มีความหวังว่า หากโครงการประสบความสำเร็จขึ้นมา การผลิตและนำส่งวัคซีนจะง่ายกว่าของคู่แข่งรายอื่นๆ อย่างมาก

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนหลายรายเริ่มไม่แน่ใจว่า สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ)อาจตัดสินใจเร่งกระบวนการอนุมัติวัคซีนตัวนี้ให้เร็วขึ้น โดยใช้อำนาจจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้พยายามเสนอข้อมูลที่ทำให้เชื่อว่า การพัฒนาวัคซีนจะสิ้นสุดเร็วกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญประเมินไว้เสมอ