ชายอเมริกันติดโควิดรอบ2 ‘แรงกว่าเดิม’

เว็บไซต์ซีเอ็นบีซีรายงาน ผลการศึกษาตีพิมพ์ในวารสารโรคติดเชื้อแลนเซ็ตระบุว่า ชายวัย 25 ปีรายนี้ อาศัยอยู่ที่วอชโชเคาน์ตี เขตที่มีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับ 2 ของรัฐเนวาดา ไม่พบภูมิคุ้มกันผิดปกติหรือมีปัญหาสุขภาพมาก่อน เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะพบเชื้อโควิด-19 เป็นครั้งที่ 2

แม้ตอนนี้เขาหายป่วยแล้ว แต่กรณีนี้ทำให้เกิดข้อสงสัยมากขึ้นว่าร่างกายจะพัฒนาภูมิคุ้มกันโควิด-19 ได้หรือไม่ ซึ่งนับถึงวันนี้ (13 ต.ค.) ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ระบุว่า มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 37.8 ล้านคน เสียชีวิต 1.08 ล้านคน

รายละเอียดของอาการตามที่เผยแพร่ในวารสารพบว่า เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ชายผู้นี้มีอาการป่วยหลายอย่างจากการติดไวรัส ทั้งเจ็บคอ ไอ ปวดศีรษะ คลื่นเหียนท้องเสีย จึงไปตรวจสุขภาพที่หน่วยงานสาธารณสุขวอชโชเคาน์ตี เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ได้ผลเป็นบวก เท่ากับติดโควิด-19 เป็นครั้งแรก จึงถูกแยกตัวจนกระทั่งหายดีเมื่อวันที่ 27 เม.ย. จากนั้นตรวจเชื้ออีก 2 ครั้งในวันที่ 9 พ.ค. และ 26 พ.ค. ได้ผลเป็นลบทั้งคู่ แต่มามีอาการป่วยอีกครั้งในวันที่ 28 พ.ค. คราวนี้มีไข้ ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ไอ คลื่นเหียน และท้องเสีย

วันที่ 5 มิ.ย. หรือ 48 วันหลังตรวจเจอเชื้อครั้งแรก ผู้ป่วยติดไวรัสเป็นครั้งที่ 2 อาการรุนแรงกว่าครั้งแรก เขาพบแพทย์เพื่อปฐมพยาบาลจากนั้นถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการหายใจหอบ ต่อมาเขาหายดีและออกจากโรงพยาบาลได้

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า คนไข้ติดไวรัส 2 ครั้งต่างกรรมต่างวาระ มากกว่าเชื้อเดิมที่สงบไปฟื้นขึ้นมาอีก เนื่องจากตรวจสอบรหัสพันธุกรรมจากการติดเชื้อทั้ง 2 ครั้งพบว่าแตกต่างกันอย่างมาก

“ข้อค้นพบเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า ผู้ป่วยติดเชื้อSARS-CoV-2 ที่มียีนแตกต่างกัน 2 ครั้ง ดังนั้นการติดเชื้อมาก่อนไม่อาจรับรองได้ว่ามีภูมิคุ้มกัน ทุกคนไม่ว่าจะได้รับการวิินิจฉัยว่าติดโควิด-19 หรือไม่ ควรระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อSARS-CoV-2” นักวิทยาศาสตร์สรุป