วันกองทัพ 'เมียนมา' วันนองเลือด ปชช. ดับเกินร้อย
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด 12 ชาติ ประณาม รัฐบาลทหารเมียนมา สังหารผู้ประท้วงทั่วประเทศตายกว่า 100 คน ในวันกองทัพ แต่กลายเป็นวันนองเลือดครั้งใหญ่
กองกำลังรักษาความมั่นคงเมียนมาได้เข้าปราบปรามยิงปืนใส่ผู้ประท้วงชาวเมียนมามากกว่า 100 คนที่เคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยทั่วประเทศในวานนี้ (27 มี.ค.) จนเป็นวันนองเลือดครั้งใหญ่ที่สุด ตั้งแต่เกิดรัฐประหาร วันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างแถลงการณ์ก่อนถูกแพร่เผยในสุดสัปดาห์นี้ว่า ผู้บัญชาการสูงสุดจากประเทศต่างๆทั่วโลก ทั้งในเอเชียและยุโรปได้ร่วมประณามรัฐบาลทหารเมียนมา หลังมีรายงานและผู้เห็นเหตุการณ์ยืนยันว่า กองกำลังรักษาความมั่นคงเมียนมาได้สังหารประชาชนรวมถึงเด็ก 114 คนในวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันกองทัพ แต่กลายเป็นวันนองเลือดประชาชนกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย
“ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด พวกเราขอประณามกองทัพเมียนมา และกองกำลังความมั่นคงที่ใช้ความรุนแรงกับประชาชนโดยปราศจากอาวุธ” ร่างแถลงการณ์ระบุ
แถลงการณ์ดังกล่าวลงนามโดยผู้บัญชาการทหารสูงสุดของ 12 ชาติ ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา เดนมาร์ก เยอรมนี กรีซ อิตาลี ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ อังกฤษ และสหรัฐ
การปราบปรามครั้งใหญ่เกิดขึ้นในวันกองทัพ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมากล่าวในระหว่างพิธีสวนสนามในกรุงเนปิดอว์ว่า "กองทัพจะปกป้องประชาชนและยึดมั่นแนวทางประชาธิปไตย" แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลับสวนทางกับคำพูดที่กล่าวไว้
สำนักข่าวออนไลน์ เมียนมา นาว รายงานว่า ในวานนี้เพียงวันเดียว กองกำลังรักษาความมั่นคงได้สังหารประชาชนเมียนมา จำนวน114 คน ขณะที่นักวิจัยอิสระได้รวบรวมตัวเลขผู้ที่เสียชีวิตจากการปราบปรามตามเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ อยู่ที่ 107 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้น โดยก่อนหน้านี้ ตัวเลขประมาณการสูงสุดอยู่ที่ 74 - 90 คนในวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา