'ยูเอ็น-ผู้นำโลก'ประณามเหตุลอบสังหารปธน.เฮติ
‘ยูเอ็น-ผู้นำโลก’ประณามเหตุลอบสังหารประธานาธิบดีเฮติ ขณะนายกฯรักษาการ ประกาศกฏอัยการศึก ปิดพรมแดนและสนามบินหลักของประเทศ ด้านสุภาพสตรีหมายเลข1เฮติ เสียชีวิตเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว
นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ออกแถลงการณ์ประณามเหตุลอบสังหารนายโฌเวแนล โมอิส ประธานาธิบดีเฮติ
“ท่านเลขาธิการเรียกร้องให้ชาวเฮติยังคงอยู่ในความสงบภายใต้รัฐธรรมนูญ และยังคงมีเอกภาพท่ามกลางเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น และหลีกเลี่ยงจากการก่อความไม่สงบ โดยองค์การสหประชาชาติจะยังคงยืนเคียงข้างรัฐบาลและประชาชนชาวเฮติ” นายสเตเฟน ดูจาร์ริค โฆษกสหประชาชาติ กล่าว
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดนออกแถลงการณ์ประณามเหตุลอบสังหารประธานาธิบดีเฮติเช่นกัน
“เรารู้สึกช็อกและเศร้าใจต่อข่าวการลอบสังหารประธานาธิบดีเฮติ และนางมาร์ตีน โมอิส สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง โดยเราขอประณามการกระทำที่น่ารังเกียจในครั้งนี้” ปธน.ไบเดนกล่าว
นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนยังแสดงความเสียใจต่อชาวเฮติ และย้ำว่าสหรัฐจะยังคงให้การสนับสนุนเพื่อให้เฮติมีความปลอดภัย
ขณะเดียวกัน ผู้นำจากหลายประเทศทั่วโลกก็ออกแถลงการณ์ประณามเหตุการณ์ดังกล่าวเช่นกัน รวมถึง นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักร ทวีตข้อความว่า เขารู้สึกตกใจและเศร้าโศกต่อการเสียชีวิตของนายโมอิส และเรียกการลอบสังหารครั้งนี้ว่า เป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ
ขณะที่รัฐบาลเฮติ ประกาศภาวะ State of Siege หรือ กฏอัยการศึกตั้งแต่เช้าวันพุธตามเวลาท้องถิ่นเป็นต้นมา หลังเกิดเหตุลอบสังหารประธานาธิบดีโดยฝีมือของมือปืนกลุ่มหนึ่งที่ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้
นายคลอด โจเซฟ รักษาการนายกรัฐมนตรีเฮติ กล่าวว่า เขาจะเป็นผู้นำประเทศในช่วงนี้และประกาศใช้กฎอัยการศึกทันที พร้อมทั้งสั่งปิดพรมแดนและสนามบินหลักของประเทศ
ส่วนนางมาร์ตีน โมอิส สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของเฮติ เสียชีวิตหลังเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลจากอาการบาดเจ็บสาหัสหลังเหตุลอบสังหารดังกล่าว