"ดอน" ชี้ บิดเบือนประสิทธิภาพวัคซีน "ซิโนแวค" กระทบสัมพันธ์ ไทย - จีน
"ดอน ปรมัตถ์วินัย" แจงละเอียด ทำไมกว่า 200 ล้านคนทั่วโลกใน 90 ประเทศใช้วัคซีนซิโนแวค ชี้ การตัดตอน และบิดเบือนข้อเท็จจริง ส่งผลความสัมพันธ์ไทย-จีน ย้ำทำงานประสานกระทรวงสาธารณสุขใกล้ชิด ไม่เป็นตามกล่าวหา
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนไทยของกระทรวงการต่างประเทศ หลังจากที่มีผู้อภิปรายในสภากล่าวพาดพืงถึงวัคซีนซิโนแวค ของจีน ว่า
การพาดพิงถึงวัคซีนซิโนแวคดังกล่าว เป็นเรื่องที่คลาดเคลื่อนในข้อเท็จจริงหลายประการ ทำให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งที่ข้อมูลที่นำเสนอในสภาฯ เป็นข้อมูลที่นำมาจากข่าวตัดเก่าๆ ที่พาดพิงกล่าวอ้างถึงเท่านั้น ไม่ใช่หลักฐานข้อเท็จจริงที่แน่ชัด
การนำมาใช้ก็เพื่อผลทางการเมืองเพียงประการเดียว ไม่ได้คำนึงถึงข้อเท็จจริงและความถูกต้องใดๆ ประเทศจีนเป็นมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่ดียิ่งกับไทยมาเป็นเวลายาวนาน มีความปรารถนาดีและความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดตลอดมา เป็นความสัมพันธ์ที่ทั้งสองรัฐบาลให้ความสำคัญในทุกมิติ กรณีของคุณภาพวัคซีนซิโนแวคนั้น เป็นวัคซีนที่องค์การอนามัยโลกได้ให้การรับรองแล้ว และมีประเทศอีก 39 ประเทศทั่วโลกได้ให้การรับรองและนำไปฉีดให้กับประชาชนอย่างแพร่หลายอย่างรวดเร็วและได้ผลทันท่วงทีมาแล้ว
"วัคซีนซิโนแวค" เป็นวัคซีนที่ออกมารุ่นแรกๆที่สามารถผลิตออกมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว และนำไปใช้และร่วมผลิตในหลายประเทศ ซึ่งวัคซีนซิโนแวคปรากฏประสิทธิภาพมาแล้วว่าได้ผลในการระงับยับยั้งการติดเชื้อโควิดได้ดีตามเป้าหมาย โดยมีผลข้างเคียงน้อย เพราะใช้เชื้อตาย เป็นพื้นฐานในการพัฒนาวัคซีน ซึ่งหมายความว่าพิษร้ายจากเชื้อตายนี้ต่อร่างกายจะมีน้อยหรือไม่มีเลย จึงมีความปลอดภัยสูง
เรื่องนี้เป็นหัวใจ ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เนื่องจากวัคซีนหลายชนิดในขณะนั้นเป็น "วัคซีนที่อยู่ในขั้นทดลองและนำมาใช้ในภาวะฉุกเฉิน" ในปัจจุบันจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคไปแล้วในโลกมีหลายร้อยล้านคน
วัคซีนของประเทศจีน ทุกชนิดก็มีการนำไปใช้แพร่หลายทั่วโลกกว่า 90 ประเทศ ยกเว้นในทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งที่จะใช้วัคซีนของตนเองที่ผลิตด้วยวิธีการต่างกันคือ mRNA เป็นส่วนใหญ่ และในยุโรปก็มีวัคซีน ชนิด viral vector ที่คิดค้นได้โดยบริษัทแอสตร้าเซเนก้า ของอังกฤษ ที่นำมาใช้อย่างแพร่หลายในยุโรป
ส่วนเรื่องราคาวัคซีนนั้น วงการแพทย์จะทราบดีว่าราคาของวัคซีนเชื้อตาย จะสูงกว่าชนิดอื่น เนื่องจากมีกระบวนการในการผลิตที่ยากลำบากกว่า แต่ประเทศจีนก็สามารถผลิตออกมาได้อย่างรวดเร็ว พร้อมด้วยประสิทธิภาพสูงที่คุ้มครองให้ประชาชนมากมายในหลายประเทศทั่วโลก รอดพ้นจากการติดเชื้อได้ในระยะแรกๆ ของการระบาดรุนแรงมาแล้ว รวมทั้งไทยที่ได้ใช้เป็นวัคซีนชนิดแรกในเดือน ก.พ.ปีนี้ ความพยายามกล่าวด้อยค่าเพียงเพื่อประโยชน์ส่วนตนนั้น
"จึงไม่เพียงแต่เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงและคุณค่าวัคซีนซิโนแวค แต่ส่งผลกระทบต่อมิตรประเทศที่ดีของไทยที่มีความร่วมมือกันใกล้ชิดที่ก่อประโยชน์อย่างมากในหลายๆ ด้านต่อประชาชนของทั้งสองฝ่าย" ดอน ระบุ
กระทรวงการต่างประเทศได้รับนโยบายและบัญชาจากนายกรัฐมนตรีให้ใช้เครือข่ายของกระทรวงฯ คือสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในการจัดหาวัคซีนให้ประชาชนให้มากที่สุดในช่วงเวลาที่ทั่วโลกกำลังมีปัญหาการระบาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการกลายพันธ์ของโควิด-19 จนเป็นไวรัสสายพันธ์ุใหม่ และหลายประเทศตลอดจนองค์การอนามัยโลกต้องตกอยู่ในสภาพขาดแคลนวัคซีนกันถ้วนหน้า
สถานเอกอัครราชทูตไทยทั่วโลกได้พยายามติดต่อสอบถามไปยังรัฐบาลของเจ้าบ้านเมื่อมีข้อมูลว่ายังอาจมีวัคซีนพอที่ประเทศไทยเข้าถึงได้ โดยในการเจรจา กระทำในหลายรูปแบบเพื่อเพิ่มโอกาสทุกประการให้ประเทศไทยเข้าถึงวัคซีนให้ได้มากที่สุด
ยกตัวอย่างเช่น การแลกเปลี่ยน หรือที่เรียกว่า swap คือในการที่ประเทศไทยสามารถผลิตวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าได้อยู่แล้ว เมื่อถึงเวลาที่ไทยมีวัคซีนเพียงพอ ไทยก็นำคืนวัคซีนที่ผลิตได้ให้ประเทศนั้น ๆ สำหรับบางประเทศที่มีแนวโน้มว่ามีพอใช้และอาจขายต่อได้ ไทยก็ขอซื้อ
ในความเป็นจริงแล้วเรื่องวัคซีนไม่ใช่เป็นเรื่องของเงินหรือราคา แต่เป็นเรื่องของการคาดการณ์ในมุมอุปทาน (supplies) และประเทศที่มีกำลังการซื้อสูงก็ได้สั่งซื้อล่วงหน้าไปก่อนที่วัคซีนจะได้เสร็จสิ้นการทดลองขั้นสุดท้ายด้วยซ้ำ
ดังนั้นการที่รัฐบาลไทยได้พยายามติดต่อไปกับประเทศต่าง ๆ ในวงกว้างก็เป็นไปเพื่อให้ประชาชนไทยได้มาซึ่งวัคซีนให้มากและเร็วที่สุดอย่างแท้จริง โดยกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ให้สถานเอกอัครราชทูตทุกแห่งดำเนินการไปตามนโยบายดังกล่าวอย่างเต็มที่ตลอดมา
ในเรื่องการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงต่างๆ ของรัฐบาลดังที่ได้มีผู้กล่าวอ้างถึงการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุขนั้น นายดอน กล่าวย้ำว่า ทั้งสองกระทรวงมีการทำงานร่วมมือกันใกล้ชิดมาโดยตลอด โดยที่ทำกันคนละหน้าที่ แต่จุดประสงค์เดียวกันคือให้ได้มาซึ่งวัคซีนให้กับประชาชนให้ "มากที่สุด เร็วที่สุด และปลอดภัยที่สุด"
นายดอน กล่าวในตอนท้ายว่า การที่มีผู้นำมากล่าวอ้างในสภาฯ นั้นเป็นการนำประเด็นปลีกย่อยที่มีการพูดพาดพิงบุคคล ในบางที่บางโอกาส และหยิบบางประเด็นไม่ใช่ทั้งหมดนำมาพูดต่อ โดยไม่ได้มีข้อมูลที่แท้จริงแต่อย่างใด