ไอร์แลนด์ ปรับ WhatsApp อ่วม 8.6 พันล้านบ. ฐานละเมิดความเป็นส่วนตัว
"ทางการไอร์แลนด์" สั่งปรับ WhatsApp แอพพลิเคชั่นชื่อดังเป็นเงิน 225 ล้านยูโร ภายหลังละเมิดข้อตกลงความเป็นส่วนตัวคนในสหภาพยุโรป
คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลในกรุงดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ (DPC) ได้มีคำประกาศดังกล่าว หลังการสอบสวนแอพลิเคชั่นส่งข้อความที่มีเฟซบุ๊ค เป็นเจ้าของ ก่อนมีคำสั่งให้วอทแอพ (WhatsApp) แก้ไขนโยบายเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน แต่ทาง WhatsApp ออกมาโต้แย้งว่าเป็นค่าปรับที่ไม่สมเหตุสมผลและเตรียมยื่นอุทธรณ์
DPC ออกมาประกาศว่าทาง WhatsApp ได้ทำการละเมิดข้อห้ามร้ายแรงของกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลทั่วไป ที่บังคับใช้ตั้งแต่ปี 2561
ประเด็นในส่วนนี้ เกิดขึ้นมาจากการส่งต่อข้อมูลระหว่าง WhatsApp กับบริษัทอื่นในเครือของเฟซบุ๊ค ทางบริษัทชี้แจงข้อมูลให้แก่ผู้ใช้งานตรงกับความจริงเพียง 41% และมากไปกว่านั้นคือผู้ไม่ได้ใช้บริการ WhatsApp ไม่สามารถตามรอยหรือรู้ตัวได้เลย ว่าข้อมูลของพวกเขาถูกส่งต่อไปที่ใดบ้างในกรณีมีการส่งข้อมูลภายในแอพพลิเคชั่น ทำให้ไม่สามารถควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลพวกเขาได้โดยสิ้นเชิง
นี่ถือเป็นการละเมิดข้อกฎหมายอย่างร้ายแรง ด้วยการควบคุมข้อมูลถือเป็นหัวใจหลักและพื้นฐานในการปกป้องข้อมูลและรักษาความเป็นส่วนตัว อีกทั้งการละเมิดดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อกลุ่มคนจำนวนมหาศาล นำไปสู่ข้อฟ้องร้องดังกล่าว
แอพส่งข้อความถือเป็นหนึ่งในบริการยอดนิยมที่มีผู้ใช้งานกว่าหนึ่งใน 4 ของประชากรโลก ภายหลังการเข้าซื้อ WhatsApp ของทางเฟซบุ๊ค ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ก็ต้องเผชิญข้อกล่าวหาเรื่องละเมิดความเป็นส่วนตัวและการเชื่อมโยงข้อมูลของผู้ใช้บริการ WhatsApp
DPC เป็นศูนย์รักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่ในสหภาพยุโรป (อียู) คอยจับตามองเฟซบุ๊ค และบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อื่นๆ โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ภายในไอร์แลนด์ โดยปีที่แล้วมีการสอบสวนข้อมูลครั้งใหญ่ไปถึงเฟซบุ๊ค, วอทแอพ และอินสตาร์แกรม ซึ่งมีเฟซบุ๊ค เป็นเจ้าของจำนวนทั้งสิ้นกว่า 14 ครั้ง
เดิมค่าปรับของวอทแอพ ถูกจัดสรรในมูลค่าเพียง 30-50 ล้านยูโร จากรายงานสอบสวนในปีที่แล้ว แต่ภายหลังการพิจารณาของศูนย์คุ้มครองข้อมูลของยุโรปที่คอยดูแล DPC อยู่ได้สั่งให้มีการพิจารณาค่าปรับใหม่ นำไปสู่โทษปรับมูลค่ากว่า 225 ล้านยูโร อีกทั้งยังได้กำหนดให้มีการว่ากล่าว และให้ดำเนินการแก้ไขการเชื่อมโยงและส่งต่อแก้ไขตามที่มีการระบุไป เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญและโปร่งใสในการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูล