จีนเร่งสกัดโควิด"คลัสเตอร์ นร.ฝูเจี้ยน"
จีนสั่งหลายเมืองทางภาคใต้ปิดโรงเรียนและตรวจหาเชื้อประชาชนหลายล้านคน หวังควบคุมโควิดคลัสเตอร์ใหม่ที่สร้างความกังวลว่าจะติดในกลุ่มเด็กนักเรียนไม่ได้ฉีดวัคซีน
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมืองผู่เตี้ยน มณฑลฝูเจี้ยน ประชากร 3.2 ล้านคน สั่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากประชาชนทุกคน หลังพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาหลายรายเชื่อมโยงกับประชาชนคนหนึ่งที่กลับจากสิงคโปร์จนระบาดไปกว่า 100 คน
คลัสเตอร์ฝูเจี้ยน เป็นการกลับมาติดเชื้อครั้งใหญ่สุดในรอบหลายสัปดาห์ และเกิดขึ้นหลังจากจีนประกาศว่าคุมการระบาดจากสายพันธุ์เดลตาได้แล้ว ตามนโยบายโควิดเป็น 0
วันนี้ (14 ก.ย.) จีน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศ 59 คน ทั้งหมดอยู่ในมณฑลฝูเจี้ยน เพิ่มขึ้นจาก 22 คนที่รายงานวานนี้ (13 ก.ย.) ทางการเผยว่า ผู้ป่วยต้องสงสัยหมายเลข 0 เป็นชายที่เพิ่งกลับจากสิงคโปร์กักตัวครบ 14 วัน ตรวจไม่พบเชื้อ แต่มามีอาการป่วยหลังจากนั้น ครั้นโรงเรียนเปิดเทอมใหม่ บุตรชายวัย 12 ปีของเขาและเพื่อนนักเรียนอีกคนหนึ่งกลายเป็นผู้ป่วยกลุ่มแรกๆ ในคลัสเตอร์นี้ตรวจพบเมื่อสัปดาห์ก่อน
จากนั้นเชื้อแพร่ในหมู่เด็กนักเรียนติดเชื้อกว่า 36 คน รวมถึงนักเรียนอนุบาล 8 คน ถือเป็นการระบาดใหญ่ในโรงเรียนครั้งแรกของจีนนับตั้งแต่โควิดเริ่มระบาด
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นับถึงวันอาทิตย์ (12 ก.ย.) จีนฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 2 พันล้านโดส มากพอสำหรับฉีดครบโดสให้ประชากร 70% แต่เด็กเล็กส่วนใหญ่ยังไม่ได้ฉีด ทำให้เกรงกันว่า การระบาดในฝูเจี้ยนจะกระทบกับกลุ่มเปราะบางมากจนเกินเหตุ
วานนี้ รัฐบาลท้องถิ่นผู่เตี้ยนสั่งโรงเรียนงดการเรียนในห้อง ขณะที่เมืองเซียะเหมินที่อยู่ใกล้เคียงทำตามในวันนี้ ทั้งยังหยุดบริการรถบัสทางไกล พร้อมสั่งประชาชนทุกคนในเมืองตรวจโควิด
ด้านสถานทูตจีนประจำสิงคโปร์แถลงวานนี้ เตือนพลเมืองจีนระมัดระวังในการเดินทางไปสิงคโปร์ และให้เตรียมพร้อมทั้งเศรษฐกิจและจิตใจเผชิญความยากลำบากในการกลับเข้าจีน