ย้อนประวัติศาสตร์ "World Expo" เวทีแจ้งเกิด "5 นวัตกรรม" พลิกโลก
ต้อนรับการเปิดฉากงาน “World Expo 2020” ที่ดูไบวันแรก (1 ต.ค.) หลังเลื่อนจัดจากปีที่แล้ว เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดทั่วโลก รู้หรือไม่ว่า ในประวัติศาสตร์ World Expo เคยเป็นเวทีแจ้งเกิดนวัตกรรมหรือสถาปัตยกรรมพลิกโลก รวมถึง “หอไอเฟล” และ “โทรศัพท์เครื่องแรก” ด้วย
งาน Expo 2020 Dubai ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในตะวันออกกลาง เปิดประตูรับผู้จัดนิทรรศการจากเกือบ 200 ประเทศทั่วโลกในวันศุกร์ที่ 1 ต.ค.
ทั้งนี้ นครดูไบได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานนี้ต่อจากงาน Expo 2015 ที่เมืองมิลานของอิตาลี และได้ลงทุนไป 6,800 ล้านดอลลาร์ จึงคาดหวังว่า งานปีนี้จะดึงดูดผู้เข้าร่วมงานได้ถึง 25 ล้านคนในช่วงระยะเวลา 6 เดือนนี้
- โลโก้ประจำงาน Expo 2020 Dubai -
ปกติแล้ว ไฮไลต์ของอีเวนท์ระดับโลกนี้ มักเป็นความอลังการของซุ้มจัดแสดงสินค้าและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่แต่ละประเทศนำมาอวดโฉมกันในงาน
อย่างไรก็ตาม ในประวัติศาสตร์การจัดงาน World Expo ตั้งแต่ปี 1851 ถึงปัจจุบัน พบว่า มีนวัตกรรมมากมายใช้งานนี้เป็นเวทีเปิดตัวหรือแจ้งเกิดต่อชาวโลก โดยนวัตกรรมหรือสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่สุดในงานครั้งก่อน ๆ มีดังต่อไปนี้
1. หอไอเฟล
หนึ่งในงาน World Expo ครั้งโด่งดังสนั่นโลกที่สุด คือเมื่อปี 1889 ในกรุงปารีสของฝรั่งเศส ซึ่งมีการเปิดตัว “หอไอเฟล” อันเป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปนิกชาวฝรั่งเศสชื่อ “กุสตาฟ ไอเฟล”
เดิมนั้น หอไอเฟล ความสูง 324 เมตร ถูกสร้างเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวชั่วคราว แต่ปัจจุบันกลายเป็นจุดท่องเที่ยวอย่างถาวรในกรุงปารีส และสัญลักษณ์ประจำฝรั่งเศสที่โด่งดังไปทั่วโลก
นอกจากนี้ หอไอเฟลยังเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลก จนกระทั่งในปี 1929 สัญลักษณ์แห่งปารีสเสียแชมป์ให้กับตึก “เบิร์จ คาลิฟา” ในดูไบ ซึ่งมีความสูงถึง 828 เมตร
2. โทรศัพท์เครื่องแรก
ประวัติความเป็นมาของโทรศัพท์เชื่อมโยงใกล้ชิดกับงาน World Expo หลังจากโทรศัพท์เครื่องแรกของโลกที่ประดิษฐ์โดย อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ เปิดตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกที่งาน Expo ในเมืองฟิลาเดลเฟียของสหรัฐในปี 1876
เกือบ 100 ปีต่อมา งาน World Expo ในโอซากาของญี่ปุ่นเมื่อปี 1970 ก็เปิดตัวโทรศัพท์ไร้สายตัวต้นแบบ จนสร้างกระแสฮือฮาในขณะนั้น
ท้ายที่สุด เทคโนโลยีเดียวกันนี้ก็ถูกต่อยอดเป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นแรกของโลก
3. ซอสมะเขือเทศ
“ไฮนซ์” (Heinz) บริษัทอเมริกันเริ่มผลิตซอสมะเขือเทศในปี 1876 และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ซอสมะเขือเทศต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกในปีเดียวกันที่งาน Expo ในฟิลาเดลเฟีย ภายใต้ชื่อ “Catsup” (แคทซัพ)
อย่างไรก็ตาม ซอสมะเขือเทศมาได้รับความนิยมจริง ๆ จัง ๆ ในงาน Expo ปี 1893 ที่ชิคาโก เพราะมีการแจกซองซอสมะเขือเทศตัวอย่างคู่กับอาหารชิ้นเล็กๆ ให้ผู้ร่วมงานลองชิมฟรีด้วย
ผลปรากฏว่า เมื่อจบงานในปีนั้น มียอดแจกซองซอสมะเขือเทศภายในงานมากกว่า 1 ล้านซอง
ส่วนอาหารที่โดดเด่นอื่น ๆ ที่ถูกเปิดตัวหรือได้รับความนิยมจาก World Expo ที่ผ่านมา รวมไปถึงโคนไอศกรีม แฮมเบอร์เกอร์ ฮ็อตด็อก เนยถั่ว ขนมสายไหม และคลับแซนด์วิช
4. ชิงช้าสวรรค์
ในงาน World Expo ที่ชิคาโกปี 1893 เป็นครั้งแรกที่โลกได้รู้จัก “ชิงช้าสวรรค์”
ชิงช้าสวรรค์เครื่องแรกของโลกซึ่งออกแบบโดย “จอร์จ วอชิงตัน เกล เฟอร์ริส” วิศวกรโยธาชาวอเมริกัน ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวแข่งกับหอไอเฟลในฝรั่งเศส
ชิงช้าสวรรค์ยักษ์นี้ซึ่งมีความสูงถึง 80 เมตร ประกอบด้วย 36 กระเช้า แต่ละกระเช้าบรรจุคนได้มากถึง 60 คน ทำให้รองรับคนได้สูงสุด 2,160 คนต่อ 1 รอบที่กินระยะเวลา 20 นาที
จนกระทั่ง ชิงช้าสรรค์ดังกล่าวเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดในสหรัฐในปี 1893 ที่มีงาน Expo และกลายเป็นตัวบุกเบิกของสวนสนุกต่าง ๆ เช่น ดิสนีย์แลนด์
อย่างไรก็ตาม เมื่อจบงานปีนั้นแล้ว ชิงช้าสวรรค์แห่งนี้ก็ถูกรื้อถอน และได้กลับมาเปิดให้คนนั่งอีกครั้งในงาน World Expo ที่เมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรีเมื่อปี 1904 ก่อนจะถูกรื้อถอนและขายทิ้งเป็นเศษเหล็กใน 2 ปีต่อมา
5. เครื่องเอกซเรย์
เครื่องเอกซเรย์ ซึ่งปัจจุบันเป็นอุปกรณ์ตรวจมาตรฐานในโรงพยาบาลและสนามบินทั่วโลก ถูกเผยโฉมต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกในงาน World Expo ที่เมืองเซนต์หลุยส์ เมื่อปี 1904
วิลเฮล์ม คอนราด เรินต์เกน นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน ค้นพบเทคโนโลยีรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นขนาดโดยบังเอิญในปี 1895 ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบล สาขาฟิสิกส์เป็นคนแรกของโลกในปี 1901
หลังจากนั้น เทคโนโลยีดังกล่าวซึ่งเป็นที่รู้จักในปัจจุบันว่า “รังสีเอกซ์” ก็ถูกพัฒนาต่อในสหรัฐ และมีบริษัทต่าง ๆ ผลิตเครื่องเอกซเรย์ภายในช่วงต้นศตวรรษที่ 20
อ้างอิง: AFP
พิเศษ! กับโปรแกรมทัวร์ ศึกษาดูงาน DUBAI WORLD EXPO 2020 7 วัน 4 คืน ที่จะพาทุกคนไปเที่ยวชมงานแบบ 2 วันจัดเต็ม ซึ่งทัวร์ของ "กรุงเทพธุรกิจ" จะมี Fast Pass ให้เข้าชมพาวิลเลียนได้แบบจุใจครบถ้วน
นอกจากนี้ ยังจะได้ไปสัมผัสประสบการณ์พิเศษ ทั้งการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ดูไบ (DUBAI MUSEUM) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทันสมัยที่สุดในตะวันออกกลาง
ไปนั่งเรือ ABRARODE สัมผัสมนต์เสน่ห์ทางวัฒนธรรมผ่านวิถีชีวิตสองฝั่งน้ําของแม่น้ํา CREEK ข้ามฟากสู่ตลาดทองและตลาดเครื่องเทศ ซื้อหาของฝาก อาทิ ถั่วแมกคาเดเมีย อัลมอนด์ พิทาซิโอ อินทผาลัม ฯลฯ
เดินทางชมดูไบเฟรม (THE DUBAI FRAME) ตึกสถาปัตยกรรมมหัศจรรย์ หนึ่งในความภาคภูมิใจของดูไบ
สนใจติดต่อได้ทัวร์ โทรสอบถามได้เลยที่เบอร์ 084-991-4926