เปิดวิธีแก้วิกฤติเกาหลีเหนือ “พิมพ์คูปองแทนเงินสด-กินเนื้อหงส์”

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ด้วยฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่กำลังสิ้นสุดลง ผู้สังเกตการณ์ต่างประเทศกล่าวว่า สถานการณ์อาหารและเศรษฐกิจในเกาหลีเหนือกำลังรุนแรงอย่างหนัก

หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ให้ข้อมูลต่อรัฐสภาในการประชุมลับเมื่อวันพฤหัสบดี (28 ต.ค.) ว่า คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือสั่งให้เก็บข้าวทุกเม็ดและทุ่มเทความพยายามทุกอย่างเพื่อเกษตรกรรม แต่หน่วยข่าวกรองประเมินว่าการเก็บเกี่ยวปีนี้อาจดีกว่าปีที่แล้วเพราะแดดจัดกว่า และว่าเกาหลีเหนือกำลังอยู่ในขั้นตอนเปิดพรมแดนกับจีนและรัสเซียภายในไม่กี่เดือนนี้

เกาหลีเหนือมีปัญหาขาดแคลนอาหารมานาน นักสังเกตการณ์กล่าวว่า เศรษฐกิจที่จัดการผิดพลาดอยู่แล้วถูกซ้ำเติมด้วยการคว่ำบาตรจากนานาชาติต่อโครงการนิวเคลียร์ ผสมโรงด้วยภัยพิบัติทางธรรมชาติ และตอนนี้โดนโควิด-19 ระบาด ทำให้ต้องล็อกดาวน์อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

คิม จองอึนยอมรับสถานการณ์อาหาร“ตึงเครียด” และขอโทษประชาชนผู้เสียสละที่ต้องทำเพื่อป้องกันโควิดระบาด กระนั้นคิมระบุว่า ปีนี้เศรษฐกิจดีขึ้น พร้อมปฏิเสธรายงานจากคณะผู้สอบสวนของสหประชาชาติในเดือนนี้ที่ว่า ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่สุดหลายหมื่นคนเสี่ยงอดอาหาร

ทั้งนี้ เกาหลีเหนือไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างเป็นทางการเลยแม้แต่คนเดียว หน่วยงานยูเอ็นเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้เกาหลีเหนือเพิ่งเริ่มอนุญาตให้ขนส่งความช่วยเหลือ และตัวเลขจากจีนเผยว่าการค้าเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ

สื่อหลายสำนักรายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตนในเกาหลีเหนือว่า ธนาคารกลางกำลังพิมพ์คูปองแทนเงินสดมูลค่าราว 1 ดอลลาร์มาใช้เนื่องจากธนบัตรสกุลเงินวอนขาดแคลน

เว็บไซต์ “ริมจินกัง” ซึ่งมีฐานปฏิบัติการในญี่ปุ่นดำเนินการโดยชาวโสมแดงแปรพักตร์ กล่าวว่า คูปองดังกล่าวใช้กันตั้งแต่เดือน ส.ค.ที่ผ่านมาเป็นอย่างน้อย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่มีกระดาษและหมึกพิมพ์ธนบัตรทางการจากจีน

ด้านเว็บไซต์เอ็นเคนิวส์ในกรุงโซล รายงานว่าการขาดแคลนธนบัตรสกุลเงินวอนอาจแย่ลงไปอีกเมื่อรัฐบาลปราบปรามการใช้เงินตราต่างประเทศ โดยเฉพาะดอลลาร์สหรัฐและหยวน สกุลเงินยอดนิยมในเกาหลีเหนือ

สำนักข่าวรอยเตอร์ไม่ยืนยันเรื่องการใช้คูปองแทนเงินสดในเกาหลีเหนือ สัปดาห์นี้สื่อทางการเกาหลีเหนือส่งเสริมให้กินเนื้อหงส์ดำอ้างว่าเป็นแหล่งอาหารอันทรงคุณค่า และการเพาะเลี้ยงหงส์ระดับอุตสาหกรรมจะช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตประชาชน

หนังสือพิมพ์ของพรรคแรงงาน “โรดองซินมุน” รายงานเมื่อวันจันทร์ (25 ต.ค.) “เนื้อหงส์ดำอร่อยและมีคุณค่าทางยา”

เอ็นเคนิวส์ระบุว่า การวิจัยเพื่อเพาะเลี้ยงหงส์ดำเป็นอาหารเริ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2562 และทางการแจ้งให้โรงเรียน โรงงาน และภาคธุรกิจปลูกพืช เลี้ยงปลาและสัตว์อื่นๆ เพื่อเพิ่มการพึ่งพาตนเอง

“วิธีการนี้เป็นไปเพื่อแก้ปัญหาทั้งการทำเกษตรขนาดใหญ่เพื่อผลิตอาหารเลี้ยงคนทั้งประเทศล้มเหลว และข้อจำกัดคุมโควิด-19 ของรัฐบาลกีดขวางการนำเข้าอาหารและสินค้าอื่นๆ ตั้งแต่ต้นปี 2563” โคลิน สเวอร์โก ผู้สื่อข่าวอาวุโสของเอ็นเคนิวส์กล่าว