ทั่วโลกรวมตัวประท้วงเรียกร้อง“แผนปฏิบัติการ”บรรเทาโลกร้อนCOP26

ขณะที่ การประชุมสภาพอากาศ ที่กลาสโกว์ ประเทศสก็อตแลนด์ กำลังดำเนินอยู่ มีการจัดอีเวนท์กว่า 200 รายการ เพื่อกระตุ้นให้ทั่วโลกหันมาใส่ใจการ แก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และเร่งบรรเทาปัญหาต่างๆที่เป็นผลกระทบจาก สภาพอากาศทั่วโลก รุนแรงขึ้นอย่างจริงจัง ก็มีการชุมนุมประท้วงเรื่องนี้ในประเทศต่างๆตั้งแต่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซิดนีย์ประเทศออสเตรเลีย ไนโรบีไปจนถึงกรุงโซล

ผู้ชุมนุมประท้วงที่รวมตัวกันเป็นวันที่2 เรียกร้องให้บรรดาผู้นำทั่วโลกหันมา แก้ปัญหาโลกร้อนอย่างจริงจัง และในทันทีเพราะปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อชุมชนต่างๆแล้ว โดยเฉพาะในบรรดา ประเทศยาก จนทั้งหลายในซีกโลกใต้

ในกลาสโกว์ บรรดาผู้จัดการชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดการณ์ว่าจะมีผู้คนมากถึง 50,000 คนออกมาร่วมชุมนุมตามถนนายต่างๆของเมืองใกล้กับที่จัดประชุม COP26 ท่ามกลางการรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้า

 

กลุ่มนักเคลื่อนไหว Arctic Basecamp ดำเนินการเคลื่อนย้ายธารน้ำแข็งส่วนหนึ่งน้ำหนัก 4,000 กก.จากกรีนแลนด์ด้วยเรือผ่านไอซแลนด์ไปถึงชายฝั่งอังกฤษ และขนย้ายด้วยรถบรรทุกไปถึงเมือง กลาสโกว์ของสกอตแลนด์เพื่อจัดแสดงใกล้กับสถานที่จัดการประชุมว่าด้วยสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ หรือ COP26 ที่เริ่มเปิดฉากขึ้นเมื่อวันจันทร์ และยังนำน้ำปริมาณ 1,000 ลิตรที่ละลายจากธารน้ำแข็งบรรจุในขวดไปจัดแสดงตามสถานที่ต่างๆสำหรับการประชุมอีกด้วย

‘เกล ไวท์แมน’ ผู้ก่อตั้ง Arctic Basecamp บอกว่า พวกเธอต้องการส่งสารให้รู้ว่า ธารน้ำแข็งนี้เป็นเพียงส่วนน้อยนิดของสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศ และในการประชุม COP26 ผู้นำมักลืมข้อเท็จจริงของ ปัญหาโลกร้อน และมุ่งต่อรองเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง เศรษฐกิจ การเงิน และอำนาจ เท่านั้น 

แต่ธารน้ำแข็งก้อนยักษ์นี้จะละลายไปเรื่อยๆจนกว่าการประชุมจะเสร็จสิ้นในช่วงสุดสัปดาห์หน้า (12 พ.ย.) ซึ่งหากที่ประชุมได้ข้อตกลงที่ดี ก็จะช่วยหยุดยั้งการละลายของธารน้ำแข็งก้อนอื่นๆได้
 

เธอบอกด้วยว่า น้ำที่ละลายจากแผ่นน้ำแข็งในกรีนแลนด์ทุกวินาทีเทียบได้กับน้ำบรรจุขวด 750 มิลลิลิตร 70 ล้านขวด ซึ่งไม่ใช่ปริมาณน้อยๆเลย จึงหวังว่า ผู้ร่วมการประชุมทั้งหลายจะไม่มองข้ามสิ่งเหล่านี้

 และเธอหวังว่า บรรดาผู้นำทั้งหลายจะปฏิบัติตามแนวทางวิทยาศาสตร์และหยุดการลงทุนใหม่ๆเพื่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลทั้งหมด เพื่อให้สามารถรักษาระดับอุณหภูมิของโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกินกว่า 1.5 องศาเซลเซียสจากระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม เพื่อความปลอดภัยของมนุษยชาติ