ยูโรแข็งค่าหลังอีซีบีคงอัตราดอกเบี้ย-ลดวงเงินซื้อพันธบัตร
ยูโรแข็งค่าเทียบดอลลาร์และเยน หลังธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย พร้อมกับปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรในการประชุมวันพฤหัสบดี(16ธ.ค.)
เมื่อเวลา 20.50 น.ตามเวลาไทย ยูโรแข็งค่า 0.51% สู่ระดับ 1.134 ดอลลาร์ และดีดตัวขึ้น 0.6% สู่ระดับ 129.44 เยน
ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันนี้ ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ทั้งนี้ ที่ประชุมอีซีบีมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ อีซีบีที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
ขณะเดียวกัน อีซีบี ระบุว่า ทางธนาคารจะซื้อพันธบัตรวงเงิน 4 หมื่นล้านยูโร/เดือนภายใต้โครงการ Asset Purchase Programme (APP) ในไตรมาส 2 ของปี 2565 และลดวงเงินสู่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโรในไตรมาส 3 ขณะที่คงวงเงินที่ระดับ 2 หมื่นล้านยูโรตั้งแต่เดือนต.ค.2565 และจะซื้อพันธบัตรนานเท่าที่จำเป็นเพื่อรักษาสภาพคล่องในตลาด
นอกจากนี้ อีซีบีจะลดวงเงินซื้อพันธบัตรในโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) และยุติโครงการดังกล่าวในเดือนมี.ค.2565
อีซีบี ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในวันนี้ แม้ว่าสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ของยูโรโซนพุ่งขึ้นสู่ระดับ 4.9% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 25 ปีนับตั้งแต่ที่ยูโรสแตทเริ่มรวบรวมข้อมูลดังกล่าว จากระดับ 4.1% ในเดือนต.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.5%
นอกจากนี้ ดัชนีซีพีไอยังสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ที่อีซีบีกำหนดไว้กว่า 2 เท่า