ผลทดลองเฟส3ชี้วัคซีน HIPRAของสเปนต้านโควิดโอมิครอนได้ดี
เว็บไซต์ยูโรวีคลีนิวส์ รายงานเมื่อวันที่ 5 ม.ค.ถึงผลทดลองทางวิทยาศาสตร์จากห้องแล็บระยะที่3 ในสเปนที่บ่งชี้ว่า วัคซีนที่บริษัท HIPRA ผู้พัฒนาวัคซีนชั้นนำของสเปน พัฒนาขึ้นมาสามารถต้านทานโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอนได้
ไดอานา โมแรนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมของสเปน ได้ยืนยันความสำเร็จครั้งนี้ของบริษัท HIPRA โดยบอกว่า "ฉันมั่นใจผลการทดสอบและการทำงานต่อต้านไวรัสของวัคซีนที่บริษัทไฮปราพัฒนาขึ้นมา โดยเฉพาะเมื่อนำไปใช้กับผู้ป่วยที่ติดโควิดสายพันธุ์โอมิครอน"
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมของสเปนยังคาดหวังว่าจะมีการนำวัคซีนตัวนี้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์ในช่วงไตรมาส2ของปีนี้
ผลทดสอบการใช้วัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัทHIPRA เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่างรัฐบาลสเปนและอีกหลายประเทศในยุโรป และมีประชาชนที่มีส่วนร่วมในการทดสอบ 3,000 คน เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาล 15แห่งทั้งในสเปนและในประเทศต่างๆ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยต่อสาธารณชนและการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของคณะทดสอบหรือทดลองการใช้วัคซีนตัวนี้เป็นหลัก
เมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว HIPRA ได้เซ็นเอ็มโอยูจัดหาวัคซีนโควิด 50 ล้านโดสให้เวียดนาม โดยข้อตกลงนี้ มีขึ้นตามกรอบพันธะสัญญาของ HIPRA เพื่อจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ของ HIPRA ให้เวียดนามและทั่วโลก เพื่อช่วยยุติการแพร่ระบาดโรค โควิด-19 ซึ่งปัจจุบันมีหลายประเทศทั่วโลกรวมทั้งในอาเซียนสนใจนำมาใช้งาน
HIPRA ลงนามในข้อตกลงเพื่อจัดหาวัคซีน HIPRA COVID-19 จำนวน 50 ล้านโดสให้แก่ประเทศเวียดนาม โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยต่อสู้กับโรคระบาด การจัดหาจะดำเนินการหลังจากมีการศึกษาทางคลินิกในประเทศและทางการเวียดนามให้การอนุมัติ
ข้อตกลงความร่วมมือนี้จะทำให้ประเทศเวียดนามสามารถแก้ปัญหาให้กับประชากรของตนในการต่อสู้กับการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีน ให้ได้เป็นอย่างมากกับประชาชนในประเทศ
วัคซีน HIPRA กระตุ้นความสนใจและคัดเลือกจากรัฐบาลประเทศเวียดนาม เนื่องจากใช้แพลตฟอร์มที่มีโปรตีนรีคอมบิแนนท์ (RBD)ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัยและกระตุ้นการตอบสนองของภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีศักยภาพ ที่จะสามารถกำจัดเชื้อโควิด-19 ได้ครอบคลุมในทุกสายพันธุ์และมีส่วนประกอบสารเสริมภูมิคุ้มกัน (adjuvant) ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัย
ข้อดีอย่างหนึ่งของวัคซีนคือสามารถเก็บรักษาไว้ได้ที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ทำให้ง่ายต่อการควบคุมคุณภาพการกระจายและการขนส่งวัคซีน ซึ่งทางการเวียดนามมองว่า HIPRA เป็นบริษัทที่มีฐานการผลิตวัคซีนหลักที่ประเทศสเปน สหภาพยุโรป ที่มีความน่าเชื่อถือสูง เนื่องจากมีความเข้มงวดในการปฏิบัติตามกำหนดข้อตกลง และมีความสามารถในการจัดหาวัคซีนในปริมาณมากให้ได้เพียงพอต่อความต้องการได้
ข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวได้ลงนามในวันเสาร์ที่ 11 ก.ย. ที่เมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยฝ่ายบริหารของ HIPRA ได้เดินทางไปพบและลงนามกับตัวแทนจากรัฐบาลประเทศเวียดนาม
HIPRA ได้กล่าวกับองค์กรและรัฐบาลต่างๆทั่วโลกผ่านทางสถานทูต เพื่อเน้นให้ตระหนักถึงประโยชน์ของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดRDB ของ HIPRA ในการที่จะช่วยยุติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในครั้งนี้ โดยให้สามารถการกระจายวัคซีนและมีการฉีดในประชากรให้ได้ครอบคลุมมากที่สุดทั่วโลก