ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวขึ้น 1.42 ดอลล์
ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดวันพุธ(12ม.ค.) พุ่งขึ้น 1.42 ดอลลาร์ หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ พุ่งขึ้น เพิ่มขึ้น 1.42 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 95 เซนต์ ปิดที่ 84.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 4.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 1.6 ล้านบาร์เรล
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (เอพีไอ) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นทะลุ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลในไตรมาสแรกของปีนี้ หลังจากทะยานขึ้น 50% ในปีที่แล้ว
"หากเศรษฐกิจจีนไม่ทรุดตัวลง และโอเปกพลัสยังคงเพิ่มการผลิตเพียงเล็กน้อย ผมก็คาดว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะพุ่งทะลุ 100 ดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปีนี้ หรือเร็วกว่านั้น" นายเจฟฟรีย์ ฮัลลีย์ นักวิเคราะห์จาก OANDA ระบุ
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังเปิดเผยว่า ราคาน้ำมันได้ปัจจัยหนุนจากการที่ประเทศต่างๆจะไม่หันกลับไปล็อกดาวน์เศรษฐกิจแบบที่ได้ดำเนินการในปี 2563 แม้มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในขณะนี้
รวมทั้งได้ปัจจัยบวกจากการที่ภาคธุรกิจยังคงมีการลงทุนที่จำกัดในอุตสาหกรรมน้ำมัน และจากภาวะน้ำมันตึงตัวในตลาด ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ผลิตน้ำมันต่ำกว่าโควตาที่กำหนด เนื่องจากสมาชิกบางราย ได้แก่ ไนจีเรียและลิเบีย ประสบปัญหาการผลิตในประเทศ
ด้านมอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะพุ่งแตะ 90 ดอลลาร์ในไตรมาส 3 ส่วนเจพีมอร์แกนคาดราคาแตะ 90 ดอลลาร์ในช่วงสิ้นปีนี้