อนามัยโลกเตือนติดโอมิครอนพุ่งทะลุชาร์ตทุบสถิติโลก

อนามัยโลกเตือนติดโอมิครอนพุ่งทะลุชาร์ตทุบสถิติโลก

ผอ.อนามัยโลกแถลง สัปดาห์เดียวประชาชนติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มทุบสถิติ 15 ล้านคน หลังโอมิครอนแซงเดลตาขึ้นมาเป็นสายพันธุ์หลักทั่วโลก

นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส  ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) แถลงเมื่อวันพุธ (12 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 15 ล้านคนในรอบสัปดาห์ตามที่มีรายงานยังต่ำกว่าตัวเลขจริง ขณะที่นางมาเรีย แวน เคอร์คอฟ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคโควิด-19 แถลงในเวทีเดียวกันว่า ผู้ติดเชื้อจำนวนมากเป็นภาระต่อระบบสาธารณสุข

“แม้โอมิครอนรุนแรงน้อยกว่าเดลตา แต่ยังทำให้ประชาชนเข้าโรงพยาบาล เข้าห้องไอซียู ต้องการการดูแลทางคลินิกอย่างก้าวหน้า และโอมิครอนยังคร่าชีวิตประชาชน” นางแวน เคอร์คอฟ ระบุ 

รายงานระบาดวิทยาประจำสัปดาห์ของดับเบิลยูเอชโอเผยแพร่เมื่อวันอังคาร (11 ม.ค.) ระบุว่า ตลอดหนึ่งสัปดาห์นับถึงวันอาทิตย์ที่ 9 ม.ค. สหรัฐมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นสูงสุด 4.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 73% จากสัปดาห์ก่อนหน้า เทียบกับทั่วโลกเพิ่มขึ้น 55% ในช่วงเวลาเดียวกัน

นายทีโดรสตั้งข้อสังเกตว่า การเข้าโรงพยาบาลไม่ได้สูงมากเหมือนกับตอนที่เคสเพิ่มสูงครั้งก่อนหน้า เป็นไปได้ว่าเพราะโอมิครอนรุนแรงน้อยกว่าเดลตา และประชาชนมีภูมิคุ้มกันมากแล้วทั้งจากการฉีดวัคซีนและเคยติดเชื้อแล้ว กระนั้น อัตราการเสียชีวิตยังสูงไม่คงที่ โดยเฉลี่ยราว 48,000 คนต่อสัปดาห์ซึ่งไม่ผันผวนมากนักตั้งแต่เดือน ต.ค.

นางแวน เคอร์คอฟเสริมว่า โอมิครอนแซงหน้าเดลตาไปแล้วในประชากรหลายกลุ่ม ขณะที่เดลตาติดเชื้อสูงสุดภายในเวลาไม่กี่เดือนเหมือนกับโอมิครอน แต่ไม่ระบาดไปทั้งโลกเร็วหรือมีผู้ติดเชื้อสูงเท่าโอมิครอน

ตามรายงาน ผู้ติดเชื้อกว่า 357,000 คนที่ตรวจหาพันธุกรรมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา เป็นโอมิครอนเกือบ 59% ซึ่งดับเบิลยูเอชโอเตือนว่า ข้อมูลอาจไม่สมบูรณ์เพราะรายงานอาจล่าช้า และบางประเทศตรวจหาพันธุกรรมได้จำกัด

ทั้งนี้ โอมิครอนมีช่วงเวลาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าสั้นกว่าสายพันธุ์อื่นหมายความว่าแค่ไม่กี่วันจำนวนผู้ติดเชื้อก็เพิ่มเป็นสองเท่าแล้ว และอาจหลบภูมิคุ้มกันได้มากกว่าจึงได้เปรียบสายพันธุ์อื่น

ขณะเดียวกันโอมิครอนดูเหมือนติดได้เร็วตั้งแต่ตรวจพบช่วงแรกๆ จากนั้นจึงลดลงมาสู่ระดับต่ำกว่า นางแวน เคอร์คอฟ กล่าวว่า เดลตาก็มีเส้นทางระบาดคล้ายกันแต่ตอนสูงสุดยังไม่เท่าโอมิครอน อย่างไรก็ตามเธอย้ำว่า การดำเนินการระดับโลก เช่น ฉีดวัคซีนและดำเนินการลดการแพร่กระจายยังสามารถควบคุมทิศทางของโอมิครอนได้ การระบาดของโอมิครอนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่โลกม่ีมาตรการควบคุมและเครืื่องมือจำกัดการแพร่กระจาย ได้แก่ สวมหน้ากาก เว้นระยะ มีระบบระบายอากาศ และหลีกเลี่ยงฝูงชน

หัวหน้าฝ่ายเทคนิคกล่าวเสริม ดับเบิลยูเอชโอคาดว่าโอมิครอนจะพัฒนาการต่อไปให้เหมาะสมยิ่งขึ้น และอาจรุนแรงมากขึ้นหรือน้อยลง และจะระบาดในหมู่คนที่ไม่ฉีดวัคซีนต่อไปในประชากรกลุ่มต่างๆ พร้อมกันนั้นอาจมีไวรัสตัวอื่นระบาดขึ้นพร้อมๆ กับโควิดได้ด้วย

“ไวรัสกำลังจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น แต่เรายังไม่อยู่ในจุดนั้น” แวน เคอร์คอฟกล่าวทิ้งท้าย