ดาวโจนส์ทรุด 450 จุดท่ามกลางการซื้อขายผันผวน
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันศุกร์(21ม.ค.)ปรับตัวร่วงลง 450 จุดขณะที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวผันผวน ท่ามกลางแรงเทขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวร่วงลง 450.02 จุด ปิดที่ 34,265.37 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 1.9% ปิดที่ 4,397.94 จุด และดัชนีแนสแด็ก ร่วงลง 2.7% ปิดที่ 13,768.92 จุด
ดัชนีแนสแด็ก ร่วงลง 0.45% และมีแนวโน้มปรับตัวรายสัปดาห์ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2563
ราคาหุ้นเน็ตฟลิกซ์ดิ่งลง 24% ในการซื้อขายวันนี้ หลังบริษัทเปิดเผยจำนวนผู้ใช้บริการชะลอตัวลงในไตรมาส 4
นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทแอ๊ปเปิ้ล อิงค์ และเทสลา อิงค์ ซึ่งจะมีการรายงานในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 25-26 ม.ค. หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายต่างแสดงความเห็นสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งรวมถึงนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด, นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟด สาขาชิคาโก, นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย และนางแมรี ดาลี ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 90% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่เฟดยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) พร้อมกับคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้
ด้านโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ และจะเริ่มปรับลดขนาดงบดุลในเดือนก.ค.หรือเร็วกว่านั้น จากปัจจุบันที่พุ่งสูงกว่า 8 ล้านล้านดอลลาร์