1 ปีแห่งความอลหม่าน "รัฐประหารเมียนมา"
วันนี้ (1 ก.พ.) ครบรอบ 1 ปี "รัฐประหารเมียนมา" แต่สถานการณ์ยังคงเต็มไปด้วยความอลหม่านและไร้วี่แววสงบในเร็ววัน ขณะที่รัฐบาลทหารเดินหน้าปราบปรามนักการเมืองขั้วอำนาจเก่า นำโดย "ออง ซาน ซูจี" และประชาชนผู้เห็นต่าง ไปย้อนดูว่าในรอบ 1 ปีมีเหตุการณ์สำคัญอะไรบ้าง
หลังจากกองทัพเมียนมาทำการ “รัฐประหาร” ยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนและจับกุมผู้นำโดยพฤตินัยอย่าง “ออง ซาน ซูจี” เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ปีที่แล้ว ตั้งแต่นั้นมา มีประชาชนเกือบ 1,500 คนถูกสังหาร และหลายพันคนถูกจับกุมจากการที่รัฐบาลทหารเลือกใช้วิธี “นองเลือด” ในการปราบปรามผู้เห็นต่าง
ผ่านมาครบ 1 ปี กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ชวนย้อนดูเหตุการณ์สำคัญในเมียนมา นับตั้งแต่กองทัพก่อรัฐประหารครั้งล่าสุด ซึ่งเป็นการปิดฉาก “การทดลอง” ปกครองระบอบประชาธิปไตย 1 ทศวรรษ หลังเมียนมาเคยถูกปกครองโดยทหารมานานราวครึ่งศตวรรษ
รวบแกนนำรัฐบาลช่วงเช้ามืด
กองทัพเมียนมาควบคุมตัวซูจี และพันธมิตรระดับสูงของเธอในช่วงเช้ามืดวันที่ 1 ก.พ. 2564 ก่อนหน้าการเปิดประชุมสภารอบใหม่ที่กำลังจะมีขึ้นในวันเดียวกัน
บรรดานายพลเมียนมาต่างอ้างเหตุผลในการรัฐประหารว่ามีการโกงเลือกตั้งเมื่อเดือน พ.ย. 2563 ซึ่งพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของซูจี ชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย หรือ “แลนด์สไลด์”
- พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐประหาร แถลงข่าวผ่านโทรทัศน์หลังยึดอำนาจ วันที่ 1 ก.พ. 64 (ที่มา : AFP) -
การยึดอำนาจของกองทัพเมียนมา เรียกเสียงประณามจากทั่วโลกตั้งแต่สมเด็จพระสันติปาปาฟรานซิส ไปจนถึงประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ
บล็อกอินเทอร์เน็ต
หลังเกิดการรัฐประหาร กลุ่มประชาชนที่ต่อต้านเริ่มใช้โซเชียลมีเดียในการนัดกันตีหม้อและกระทะ ซึ่งเป็นวิธีขับไล่ปิศาจร้ายตามความเชื่อโบราณ
ขณะที่รัฐบาลทหารพยายามบล็อกแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ต่าง ๆ รวมถึงเฟซบุ๊ค ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในเมียนมา จากนั้น กองทัพก็สั่งตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
ประชาชนต้านหนัก
กระแสต่อต้านการรัฐประหารในเมียนมาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงสุดสัปดาห์แรก (6-7 ก.พ. 2564) ฝูงชนจำนวนมากรวมตัวกันเดินขบวนประท้วง เรียกร้องให้รัฐบาลทหารปล่อยตัวซูจี อดีตผู้นำ
หลังผ่านไปหลายสัปดาห์ การประท้วงเหล่านี้ขยายวงสู่มวลชนนับแสนคนในหลายเมืองและหมู่บ้านต่าง ๆ ทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน กลุ่มแรงงานนัดกันหยุดงานประท้วงในวันที่ 8 ก.พ. 2564
- ผู้ประท้วงชาวเมียนมาชู 3 นิ้วต่อต้านรัฐบาลทหาร (ที่มา : AFP) -
แต่แล้วก็มีการนองเลือดเกิดขึ้น เมื่อหญิงวัย 19 ปีถูกตำรวจใช้กระสุนจริงยิงเข้าศีรษะขณะร่วมการประท้วงในกรุงเนปิดอว์ในวันต่อมา
นานาชาติคว่ำบาตร
ไม่นานหลังจากนั้น รัฐบาลสหรัฐประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่กองทัพเมียนมาหลายคน รวมไปถึง พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้นำรัฐประหาร
- พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐประหารเมียนมา (ที่มา : AFP) -
ตามมาด้วยการคว่ำบาตรเพิ่มเติมจากสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป (อียู)
การปราบปรามขยายวง
“เมียะ เทว็ต เทว็ต ข่าย” หญิงวัย 19 ปีที่ถูกตำรวจยิงเข้าศีรษะ 10 วันก่อนหน้านั้น เสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2564 หลังจากนั้น เธอก็กลายเป็นสัญลักษณ์การต่อต้านรัฐบาลทหารของชาวเมียนมาทั่วประเทศ
นับตั้งแต่นั้นมา การใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วงบนท้องถนนทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และวันที่ 11 มี.ค. 2564 “แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล” ออกมาประณามว่า รัฐบาลทหารเมียนมาใช้อาวุธสงครามกับกลุ่มผู้ประท้วงที่ไร้อาวุธ
วันต่อมา ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านเมียนมาของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวหาว่า กองทัพเมียนมาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
- กลุ่มผู้ประท้วงในเมียนมาทำป้ายประกาศจับผู้นำรัฐประหารแปะในที่สาธารณะหลายแห่ง (ที่มา : AFP) -
วันนองเลือดที่สุด
มีพลเรือนกว่า 100 คนถูกสังหารจากการปราบปรามผู้ประท้วงเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2564 ซึ่งเป็นวันเหล่าทัพประจำปีของเมียนมา และทำให้วันนั้นกลายเป็นวันที่นองเลือดที่สุดนับตั้งแต่มีการรัฐประหาร
เดือนต่อมา บรรดาส.ส.พลเรือนที่พ้นตำแหน่งหลังการรัฐประหาร จำต้องเดินเกมใต้ดินด้วยการประกาศตั้งรัฐบาลเงา ภายใต้ชื่อ “รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ” (National Unity Government)
เปิดไต่สวนคดีซูจี
ในเดือน มิ.ย. 2564 หรือกว่า 4 เดือนหลังจากซูจีถูกกองทัพเมียนมาควบคุมตัว เธอก็ถูกนำตัวขึ้นไต่สวนคดีในศาลของรัฐบาลทหาร
ซูจีเผชิญกับหลายข้อกล่าวหา รวมไปถึงลักลอบนำเข้าวิทยุมือถือ (walkie-talkie) โดยผิดกฎหมาย และละเมิดกฎหมายควบคุมการระบาดของโควิด-19 ระหว่างการเลือกตั้งปี 2563
- ออง ซาน ซูจี อดีตผู้นำโดยพฤตินัยของเมียนมา ถูกรัฐบาลทหารตั้งข้อหาหลายคดี (ที่มา : AFP) -
วิกฤติเศรษฐกิจ
ในเดือน ก.ค. 2564 ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของเมียนมาจะหดตัวลง 18% ในปี 2564 ผลจากการรัฐประหารและการระบาดของโควิด-19
ขณะเดียวกัน เวิลด์แบงก์ประเมินว่า อัตราความยากจนในประเทศจะพุ่งขึ้น 2 เท่าจากระดับในปี 2562
ยกเลิกผลเลือกตั้งปี 63
ช่วงปลายเดือน ก.ค. 2564 รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศยกเลิกผลเลือกตั้งปี 2563 ที่พรรคของซูจีชนะขาดลอย โดยอ้างว่า ตรวจพบความผิดปกติของคะแนนมากกว่า 11 ล้านคะแนน
6 เดือนหลังจากกองทัพเมียนมายึดอำนาจ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ประกาศว่า จะจัดการเลือกตั้งใหม่ภายในเดือน ส.ค. 2566
จำคุกซูจี
วันที่ 6 ธ.ค. 2564 ศาลของรัฐบาลทหารสั่งจำคุกซูจีเป็นเวลา 4 ปี ฐานยุยงปลุกปั่นให้มีการต่อต้านกองทัพและละเมิดมาตรการคุมโควิด-19 แต่ลดโทษจำคุกเหลือ 2 ปี
วันที่ 10 ม.ค. 2565 ซูจีถูกตัดสินจำคุกอีก 4 ปี ในความผิด 2 ข้อหาเกี่ยวกับการนำเข้าและครอบครองวิทยุมือถือ (walkie-talkie) โดยผิดกฎหมาย และละเมิดกฎควบคุมการระบาดของโควิด-19
นอกจากนี้ ศาลเมียนมาจะเริ่มพิจารณาคดีทุจริตเลือกตั้งของซูจี ในวันที่ 14 ก.พ.นี้ หลังจากที่ถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจในทางมิชอบเพื่อให้ได้รับชัยชนะเป็นสมัยที่สองจากการเลือกตั้งปี 2563
--------------
ที่มา : AFP