“ปธน.ไบเดน” ติดตามปฏิบัติการปลิดชีพผู้นำไอเอส แบบเรียลไทม์
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ นั่งดูปฏิบัติการปลิดชีพ “ผู้นำไอเอส” หนึ่งในกลุ่มก่อการร้ายที่โหดที่สุดในโลก ในห้องสถานการณ์แบบเรียลไทม์ ตั้งแต่เฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอว์คลงจอดพร้อมหน่วยคอมมานโด จนถึงช่วงการระเบิดฆ่าตัวตายผู้นำไอเอส
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน นั่งหัวโต๊ะในห้องสถานการณ์ภายในทำเนียบขาว โดยคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี กับสมาชิกทีมที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ ร่วมดูปฏิบัติการแบบเรียลไทม์ของหน่วยคอมมานโด 24 นาย ขณะบุกอาคาร 3 ชั้น ล้อมรอบด้วยต้นมะกอก ในเมืองแอทเมห์ของซีเรียใกล้พรมแดนตุรกี ที่เป็นแหล่งกบดานของนายอาบู อิบราฮิม อัล-ฮาชีมี อัล-คูเรย์ชี หรือ ฮาจิ อับดุลลาห์ กับภรรยาและลูกๆ
เฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอว์คเดินทางถึงที่หมายในเวลา 1 ชั่วโมงหลังเที่ยงคืน ซึ่งหน่วยข่าวกรองได้ชี้เป้าว่าผู้นำไอเอสอยู่บนชั้น 3 ของอาคาร ซึ่งเขาได้ชื่อว่าเป็นคนที่เข้มงวดเรื่องความปลอดภัย ไม่เคยออกจากอาคารและบริหารกองกำลังด้วยการส่งข้อความผ่านมือขวาที่พักอยู่ชั้นล่าง เพื่อนบ้านใกล้เคียงถูกปลุกด้วยเสียงเฮลิคอปเตอร์ และเสียงเตือนเป็นภาษาอารบิคให้ทุกคนยอมจำนนแต่โดยดีเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ แต่ตอนที่หน่วยคอมมานโดบุกเข้าไป มือขวากับภรรยาของคูเรย์ชีได้เปิดฉากยิงจากชั้นที่ 2
หลังการบุกผ่านไป 45 นาที ก็เกิดระเบิดอย่างรุนแรงที่ชั้นบนของอาคารคร่าชีวิตคูเรย์ชีและครอบครัวเจ้าหน้าที่สหรัฐ ระบุว่าเป็นการระเบิดฆ่าตัวตายและแรงระเบิดทำให้ศพกระเด็นออกจากซากอาคาร และเพราะเป็นยุคของโซเชียลมีเดียทำให้ยากที่จะเก็บเป็นความลับ
ชาวบ้านพากันโพสต์ว่ามีเฮลิคอปเตอร์กับเครื่องบินรบ บินอยู่เหนือพื้นที่อยู่อาศัยของพวกเขา และข้อมูลติดตามเที่ยวบินก็แสดงให้เห็นว่ามีโดรนติดตามการบุก
เจ้าหน้าที่สหรัฐ ระบุว่าหน่วยคอมมานโดรู้ว่ามีพลเรือนอาศัยอยู่ที่ชั้นล่าง จึงได้เตือนให้รีบหนีออกไป และพบว่ามีชาย 1 คน หญิง 1 คน กับเด็กอีกไม่ทราบจำนวนหลบหนีไปได้ ส่วนผู้เสียชีวิตทั้งหมดเบื้องต้นพบว่ามีจำนวน 13 คน รวมทั้งผู้หญิง 4 คน และเด็ก 6 คน และต้องรอผลการตรวจ DNA เพื่อยืนยันตัวตนด้วย
มีรายงานว่าขณะปฏิบัติการมีเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งมีปัญหาขัดข้องทางเทคนิค โดยเชื่อว่าเป็น “Nightstalker MH-60 Black Hawk” ทำให้ทหารภาคพื้นดินต้องรีบเข้าไปจัดการทำลายทิ้งทันที ซึ่งถือเป็นการทำลายยุทโธปกรณ์มูลค่ากว่า 5 ล้านดอลลาร์ แต่ก็คุ้มค่าต่อผลลัพธ์ที่ได้ ส่วนหน่วยคอมมานโดที่เชื่อว่า มีสมาชิกหน่วยเดลตาร่วมภารกิจด้วย ได้เดินทางกลับฐานโดยสวัสดิภาพทั้ง 24 นาย