ทำไม "จีน" เลือก "ตี๋นีเก๋อเอ่อร์" นำจุดคบเพลิงโอลิมปิกฤดูหนาว 2022

สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า "ตี๋นีเก๋อเอ่อร์ อีลามู่เจียง"  ( Dinigeer Yilamujiang) อาจเป็นคนแปลกหน้าสำหรับผู้อยู่นอกวงการสกีครอสคันทรี หลังผ่านพ้นคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เธอกลายดาวจรัสวงการกีฬา ในฐานะผู้วางคบเพลิงโอลิมปิก ร่วมกับจ้าวเจียเหวิน ในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาปักกิ่งโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 

ตี๋นีเก๋อเอ่อร์ อีลามู่เจียง นักกีฬาสกีครอสคันทรี สาวชาวจีน วัย 20 ปี ให้สัมภาษณ์ว่า วินาทีที่ปฏิบัติภารกิจจุดไฟคบเพลิงโอลิมปิก จะเป็นแรงผลักดันฉันไปตลอดทั้งชีวิต และยอมรับว่า รู้สึกตื่นเต้นมากๆ หน้าที่นี้ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง

ผู้ได้รับเลือกเป็นผู้ถือคบเพลิงชุดสุดท้าย ซึ่งแต่ละคนเป็น “ตัวแทนแห่งทศวรรษ” ในการทำหน้าที่ถือคบเพลิงโอลิมปิกรอบสนามกีฬาแห่งชาติหรือสนามกีฬารังนกในกรุงปักกิ่งของจีน ก่อนจะวางคบเพลิงในกระถางคบเพลิงที่อยู่กลางเกล็ดหิมะใหญ่ยักษ์พร้อมกิ่งมะกอกหกแฉก

ตี๋นีเก๋อเอ่อร์ และจ้าว นักสกีนอร์ดิกแบบผสม เป็นตัวแทนของผู้เกิดทศวรรษ 2000 ได้รับคบเพลิงต่อจากนักกีฬาโอลิมปิก ฤดูหนาว รุ่นก่อนหน้า สื่อสัญลักษณ์การสืบทอดประเพณีการแข่งขันกีฬาและจิตวิญญาณแห่งโอลิมปิกผ่านนักกีฬาจากรุ่นสู่รุ่น

 

"มาร์ก อดัมส์" โฆษกคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) กล่าวว่า  ตี๋นีเก๋อเอ่อร์เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นส่วนหนึ่งในพิธีวิ่งคบเพลิง และแนวคิดนำผู้คนทุกรุ่นมาอยู่ร่วมกันในพิธีเปิดนั้นยอดเยี่ยมและน่ารัก

ตี๋นีเก๋อเอ่อร์ดูจะมีความผูกพันกับหิมะโดยธรรมชาติ หลังจากลืมตาดูโลกที่ภูมิภาคอาเล่อไท่ เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อาจมีหิมะตกหนักหนาถึงหนึ่งเมตร

ภูมิภาคอาเล่อไท่ได้รับการรับรองจากหลายฝ่ายให้เป็นแหล่งกำเนิดสกีของมนุษย์ เนื่องจากมีการค้นพบภาพวาดในถ้ำเมื่อปี 2005 ซึ่งนักโบราณคดีคาดว่าเก่าแก่นับหมื่นปี และแสดงภาพชาวอาเล่อไท่ออกล่าสัตว์บนอุปกรณ์คล้ายสกีและไม้ค้ำ

สภาพทางภูมิศาสตร์และสภาพอากาศที่ไม่เหมือนที่ใดของอาเล่อไท่ ทำให้การเล่นสกีเป็นส่วนสำคัญในชีวิตคนท้องถิ่น โดยนับตั้งแต่ทศวรรษ 1980 นักกีฬาสกีอัลไพน์และสกีครอสคันทรีจำนวนมากจากภูมิภาคอาเล่อไท่เริ่มเป็นตัวแทนจีนในการแข่งขันระดับนานาชาติ

 

"อีลามู่เจียง มู่ลาจี" พ่อของตี๋นีเก๋อเอ่อร์ ยังเคยเป็นนักกีฬาครอสคันทรี ที่ทำผลงานเป็นอันดับ 3 ในการแข่งขันสกีครอสคันทรีระดับชาติในปี 1993 โดยตี๋นีเก๋อเอ่อร์เริ่มเล่นสกีครอสคันทรีตามรอยพ่อตอนอายุ 10 ปี หลังจากพ่อของเธอก่อตั้งและเป็นผู้ฝึกซ้อมทีมนักกีฬาเยาวชน 20 คน ในปี 2010

สนามฝึกซ้อมของทีมเยาวชนข้างต้นอยู่บนเนินเขานอกเมือง ก่อนการฝึกซ้อมแต่ละครั้ง ตี๋นีเก๋อเอ่อร์และเพื่อนร่วมทีมจะตั้งแถวและเคลื่อนตัวทีละก้าวเพื่อสร้างเส้นทางสกี ซึ่งมักใช้เวลา 7-8 ชั่วโมง เพื่อบดอัดหิมะและปล่อยให้เส้นทางสกีแข็งตัวในช่วงข้ามคืนแล้วมาฝึกซ้อมในวันถัดไป

ด้าน "หรูเซียน ฮาถีปาจี๋" แม่ของตี๋นีเก๋อเอ่อร์ กล่าวว่าตอนแรกเธอไม่เห็นด้วยกับการไล่ล่าความฝันของลูก และรู้สึกไม่พอใจสามีของเธอ เนื่องจาก “การมีนักสกีครอสคันทรีคนเดียวในครอบครัวก็มากเกินพอแล้ว”

แต่ว่า ตี๋นีเก๋อเอ่อร์กลับหลงใหลในการเล่นสกีมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ ยังคงร้องไห้เพราะหกล้ม แต่เธอกลับลุกขึ้นและเล่นสกีต่อไป โดยไม่เคยกังวลเรื่องหิมะกัดและรอยแผลฟกช้ำ

ความรักและความหลงใหลต่อสกีครอสคันทรีนี้เองที่ได้เปลี่ยนใจแม่ของตี๋นีเก๋อเอ่อร์ โดยเฉพาะยามเห็นลูกสาวแข่งสกีครั้งแล้วครั้งเล่าพร้อมรอยยิ้ม จึงเข้าใจว่าตี๋นีเก๋อเอ่อร์รักการเล่นสกีมากแค่ไหน

แม้มีประสบการณ์เล่นสกีครอสคันทรีกับทีมเยาวชน แต่ตี๋นีเก๋อเอ่อร์ไม่ได้ขึ้นเป็นนักกีฬามืออาชีพจนกระทั่งปี 2017 ที่เธอเปลี่ยนจากการแข่งกีฬาลู่และลานไปเข้าร่วมทีมสกีครอสคันทรีระดับชาติ

ฟู่หย่ง หัวหน้าโค้ชของทีมสกีครอสคันทรีซินเจียง ระบุว่าเป็นเรื่องยากมากที่นักกีฬาจะเปลี่ยนจากกีฬาประเภทหนึ่งไปอีกประเภทหนึ่ง ยังไม่นับที่ตี๋นีเก๋อเอ่อร์เปลี่ยนไปเล่นกีฬาที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง จากที่เล่นบนหญ้าเขียวมาเป็นหิมะขาว

ปักกิ่งคว้าสิทธิจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 เมื่อปี 2015 ซึ่งจุดกระแสความนิยมกีฬาฤดูหนาวในหมู่ชาวจีนครั้งใหญ่

ภูมิภาคอาเล่อไท่ บ้านเกิดของตี๋นีเก๋อเอ่อร์ ได้สร้างสกีรีสอร์ตนานาชาติหลายแห่ง และค่อยๆ กลายเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับเหล่านักสกีและนักสโนวบอร์ดจากทั้งในและนอกประเทศ โดยอาศัยประโยชน์จากหิมะคุณภาพสูงและฤดูหิมะที่ยาวนานระหว่างเดือนพฤศจิกายน- พฤษภาคม

ตัวอย่างเช่นสกีรีสอร์ตนานาชาติเข่อเข่อทัวไห่ ตั้งอยู่ที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเลระหว่าง 1,821-3,041 เมตร และมีเส้นทางสกียาว 28 กิโลเมตร หรือสกีรีสอร์ตเจียงจวินซาน ที่กลายเป็นชั้นเรียนวิชาพลศึกษาให้นักเรียนท้องถิ่นได้ฝึกเล่นสกีฟรี โดยตั้งอยู่ห่างจากใจกลางอาเล่อไท่ด้วยการขับรถเพียง 10 นาที

จำนวนผู้เล่นสกีในซินเจียงที่เพิ่มขึ้น ยังมีส่วนส่งเสริมจำนวนนักกีฬาท้องถิ่นที่เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว จากเดิม 4 คน ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 เป็น 6 คน ในปีนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือตี๋นีเก๋อเอ่อร์ ที่พยายามพัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่องจนมีผลงานโดดเด่นระดับนานาชาติ

 

ฮาถีปาจี๋ คาดหวังว่าลูกสาวของเธอจะแสดงฝีมือให้ดีที่สุดและพยายามอย่างถึงที่สุดในการแข่งขันปักกิ่งโอลิมปิกฤดูหนาว และหวังว่าตี๋นีเก๋อเอ่อร์จะกลับบ้านโดยเร็วเพื่อมารับประทานอาหารจานโปรดที่เธอทำให้และพักผ่อนเยอะๆ

สำหรับ ตี๋นีเก๋อเอ่อร์เข้าร่วมการแข่งขันสกีครอสคันทรีหญิง ประเภท 7.5 กม. + 7.5 กม. ซึ่งเป็นการชิงชัยเหรียญทองรายการแรกในปักกิ่งโอลิมปิกฤดูหนาว และแม้เธอจบการแข่งขันที่อันดับ 43 ด้วยเวลา 50 นาที 10.7 วินาที แต่ตี๋นีเก๋อเอ่อร์ยังคงทำให้ครอบครัวภูมิใจในฐานะผู้ร่วมถือคบเพลิงโอลิมปิก

อย่างไรก็ตาม บรรดาญาติคนหนึ่งของตี๋นีเก๋อเอ่อร์กล่าวว่า เราทุกคนต่างมองหาเธอตอนที่คณะผู้แทนจีน ปรากฏตัวในพิธีเปิด และสมาชิกครอบครัวเราทุกคนรู้สึกตื่นเต้นและประหลาดใจมาก โดยแม่ของเธอถึงกับร้องไห้ รวมทั้งทุกคนในครอบครัวรู้สึกภูมิใจในตัวเธอเป็นอย่างยิ่ง