ซีอีโอโมเดอร์นาเชื่อ โควิดเข้าสู่ระยะสุดท้าย

เว็บไซต์ซีเอ็นบีซีรายงาน นายสเตฟาน แบนเซล ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัทโมเดอร์นา กล่าวในรายการ “Squawk Box Asia” ทางสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี เมื่อวันพุธ (16 ก.พ.) ตามเวลาสหรัฐ แสดงทัศนะถึงการระบาดของโควิด-19 ที่ตอนนี้อาจเข้าสู่ระยะสุดท้ายแล้ว

“ผมคิดว่านั่นคือฉากทัศน์ที่สมเหตุสมผล มีโอกาส 80% ที่โอมิครอนวิวัฒนาการ หรือไวรัสซาร์สคอฟ-2 วิวัฒนาการ เป็นไวรัสที่มีความรุนแรงน้อยกว่า ฉากทัศน์อีก 20% คือเกิดการกลายพันธุ์ที่รุนแรงกว่าโอมิครอน”ซีอีโอโมเดอร์นากล่าวและว่า แม้โอมิครอนไม่รุนแรงมากแต่ยังคงทำให้มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกวันละหลายพันราย

ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ในรอบเจ็ดวันที่ผ่านมาทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15.47 ล้านคน เสียชีวิต 73,162 คน การศึกษาบางชิ้นชี้ว่า แม้สายพันธุ์โอมิครอนดูเหมือนติดต่อได้ง่ายกว่า แต่โดยทั่วไปไม่ทำให้ป่วยเหมือนกับสายพันธุ์เดลตา  หน่วยงานสาธารณสุขหลายประเทศยังย้ำด้วยว่า ภัยคุกคามจากโอมิครอนอาจจางหายไป แต่ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการดับเบิลยูเอชโอ เคยเตือนเมื่อเดือน ม.ค.ว่า อันตรายถ้าจะทึกทักว่าการระบาดของโควิดใกล้ถึงจุดจบแล้ว เพราะในความเป็นจริง “ยังไม่ใกล้ยุติ” และขอให้ระวังสายพันธุ์ใหม่ที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากโอมิครอนระบาดเร็วทั่วโลก

ในเดือน ม.ค.เช่นเดียวกันโมเดอร์นาประกาศว่า เริ่มทดลองทางคลินิกศึกษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับสายพันธุ์โอมิครอนโดยเฉพาะ คาดว่าจะทดลองกับผู้ใหญ่อายุ 18 ปีขึ้นไปราว 600 คน

ส่วนการให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซี ซีอีโอโมเดอร์นากล่าวด้วยว่ามีแผนขยายตัวในเอเชีย การขยายตัวทางเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ “น่าตื่นตาตื่นใจ”

ซีอีโอตั้งใจเปิดบริษัทลูกแห่งใหม่ในมาเลเซีย ไต้หวัน สิงคโปร์ และฮ่องกง พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตและจัดจำหน่ายวัคซีนป้องกันโควิด-19 รวมถึงวัคซีน mRNA และวิธีการรักษาในอนาคต

ขณะนี้วัคซีน mRNA ของโมเดอร์นายังไม่มีในฮ่องกงที่เมื่อเร็วๆ นี้ผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งสูงขึ้น แบนเซลกล่าวว่า บริษัทกำลังขออนุมัติจากทางการฮ่องกง