ยูเครนตัดสัมพันธ์รัสเซียขณะทั่วโลกรุมประณามประธานาธิบดีปูติน
ยูเครนตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซีย และปลุกระดมให้มวลชนลุกขึ้นต่อสู้ปกป้องอธิปไตยด้วยอาวุธที่รัฐบาลแจกให้ ขณะที่ทั่วโลกรุมประณามประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่ใช้ปฏิบัติการทางทหารกับยูเครน
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ประกาศทางโทรทัศน์วันนี้ว่า ยูเครนได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซียแล้ว หลังจากกองทัพได้ต่อสู้อย่างหนักกับกองกำลังของรัสเซียทั้งในภูมิภาคดอนบาสทางภาคตะวันออกของ ภาคเหนือ และภาคใต้ แต่ก็ทำให้ฝ่ายศัตรูได้รับความสูญเสียอย่างหนักและจะสูญเสียมากกว่านี้
พร้อมกันนี้เขาบอกว่าได้แจกจ่ายอาวุธให้กับประชาชนแล้ว และขอให้ทุกคนจับอาวุธขึ้นต่อสู้เพื่อปกป้องประเทศ รวมทั้งขอให้สื่อมวลชนยูเครนนำเสนอข่าวที่สนับสนุนเอกภาพภายในชาติ และรายงานการต่อสู้อย่างเข้มแข็งของกองทัพ ก่อนหน้านั้นเขาได้ประกาศกฎอัยการศึกทั่วทั้งประเทศ และขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ อย่าตื่นตระหนก
ถ้อยแถลงของเขามีขึ้นหลังจากกองทัพรัสเซีย เริ่มใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อยูเครนตามคำสั่งของประธานาธิบดีปูติน ที่ประกาศให้ใช้ปฏิบัติการพิเศษในสองสาธารณรัฐที่แยกตัวเป็นเอกราชในภูมิภาคดอนบาส ทางภาคตะวันออกของยูเครน หลังได้รับการร้องขอจากทั้งสองรัฐให้ช่วยยุติการรุกรานของกองทัพยูเครน
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐประณามการโจมตีของรัสเซียที่เกิดขึ้น โดยไม่มีเหตุยั่วยุและความชอบธรรม และบอกว่าประธานาธิบดีปูตินเลือกทำสงครามที่ไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า ว่าจะสร้างความสูญเสียต่อชีวิตและสร้างความทุกข์ยากอย่างใหญ่หลวง และรัสเซียต้องรับผิดชอบเพียงฝ่ายเดียว สำหรับการเสียชีวิตและความเสียหายจากการโจมตี
สหรัฐ พันธมิตร และหุ้นส่วน จะตอบโต้อย่างเด็ดเดี่ยวร่วมกัน และโลกจะทำให้รัสเซียต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง
นายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ของเยอรมนี ประณามการโจมตีของรัสเซียว่าละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และไม่มีเหตุผลชอบธรรมใด ๆ ทั้งสิ้น
นายอันโตนิอู กูเตียร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า เพื่อเห็นแก่มนุษยชาติไม่ควรปล่อยให้สงครามเริ่มขึ้นในยุโรป ที่อาจกลายเป็นสงครามครั้งเลวร้ายที่สุดของศตวรรษนี้ และไม่เพียงสร้างความหายนะแก่ยูเครน แต่ยังสร้างความเสียหายแก่รัสเซียอย่างที่ไม่อาจคาดเดาได้ และเรียกร้องให้ปูตินสั่งให้ทหารถอนตัวกลับรัสเซียไป
นอกจากนี้ เยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต กล่าวว่า การโจมตีของรัสเซียเป็นการบุกที่วางแผนมายาวนานอย่างจงใจและเลือดเย็น และชาติพันธมิตรนาโตขอประณามด้วยถ้อยคำรุนแรงที่สุด
ขณะที่กระทรวงต่างประเทศจีน แถลงย้ำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อกับสถานการณ์ยูเครนใช้ความอดกลั้น และ แสดงความไม่เห็นด้วยกับการรายงานข่าวของสื่อที่ว่า ปฏิบัติการของรัสเซียเป็นการบุกยูเครน