ซีอีโอ'ราคูเท็น'เตรียมบริจาคเงิน 1 พันล้านเยนช่วยยูเครน

นายมิกิทานิ เปิดเผยเนื้อความในจดหมายถึงประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ผ่านทางทวิตเตอร์ว่า "ผมรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมขอเป็นกำลังใจให้ท่านประธานาธิบดีและชาวยูเครนทุกคน"

"เมื่อผมได้เห็นการต่อสู้อย่างกล้าหาญของคุณในนามของประชาชนชาวยูเครน ผมก็คิดว่าผมจะทำอะไรเพื่อยูเครนได้บ้าง" โดยนายมิกิทานิระบุว่า การบริจาคนี้มีวัตถุประสงค์สำหรับใช้ในกิจกรรมด้านมนุษยธรรม เพื่อช่วยเหลือผู้คนในประเทศที่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง

"ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัสเซียและยูเครนสามารถแก้วิกฤตครั้งนี้ได้ด้วยสันติวิธี และประชาชนชาวยูเครนจะมีสันติภาพอีกครั้งโดยเร็วที่สุด" นายมิกิทานิกล่าว

ขณะเดียวกัน นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน เปิดเผยในวันนี้ว่า คณะผู้แทนรัสเซียที่จะเข้าร่วมการเจรจาเพื่อสันติภาพกับยูเครนได้เดินทางมาถึงเมืองกอเมลของเบลารุสแล้ว ซึ่งถือเป็นการปูทางสู่การเจรจาครั้งแรกหลังจากที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา

สำนักข่าวเบอร์นามา รายงานว่า คณะผู้แทนชุดนี้รวมถึงผู้แทนประธานาธิบดี ผู้แทนกระทรวงต่างประเทศ และผู้แทนกระทรวงกลาโหม

 อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ปฏิเสธที่จะเจรจากับรัสเซียในเบลารุส โดยให้เหตุผลว่า การเจรจาในเบลารุสอาจเป็นไปได้ แต่ไม่ใช่หลังจากที่รัสเซียเข้าบุกยูเครนโดยใช้ช่องทางแนวชายแดนที่ติดกับเบลารุส

"หากไม่มีการบุกโจมตีจากดินแดนของคุณ เราก็คงสามารถเจรจาในเบลารุสได้ ผมคิดว่าเราอาจใช้เมืองอื่นเพื่อเป็นเวทีเจรจา" ผู้นำยูเครนระบุ

"แน่นอนว่าเราต้องการสันติภาพ เราต้องการเจรจา เราต้องการให้สงครามยุติ เราของเสนอกรุงวอร์ซอ กรุงบราติสลาวา กรุงบูดาเปสต์ อิสตันบูล หรือกรุงบากู เป็นเวทีสำหรับการเจรจากับรัสเซีย"

 "หรือจะเป็นเมืองอื่นก็ได้เช่นกัน แต่ต้องเป็นเมืองของประเทศที่ไม่ยิงขีปนาวุธมาใส่ดินแดนของเรา นี่เป็นวิธีเดียวที่จะนำไปสู่การเจรจาที่ซื่อสัตย์และสามารถยุติสงครามได้จริง"