ยูเอ็นลงคะแนนเสียงท่วมท้นเรียกร้องรัสเซียถอนทหารจากยูเครนทันที

มติดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสมาชิก 141 ประเทศ จากทั้งหมด 193 ประเทศ ขณะที่ 35 ประเทศงดออกเสียง ซึ่งรวมถึงจีน อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ แอฟริกาใต้ และเวียดนาม ส่วน 5 ชาติ ซึ่งได้แก่ รัสเซีย เบลารุส ซีเรีย เกาหลีเหนือ และเอริเทรีย ลงคะแนนเสียงคัดค้าน

มติดังกล่าวระบุว่า สหประชาชาติขอ "ตำหนิอย่างรุนแรงที่สุด" ต่อการที่รัสเซียรุกรานยูเครน และขอประณามการตัดสินใจของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินที่ได้สั่งกองกำลังนิวเคลียร์อยู่ในสภาพเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด

ทั้งนี้ มติดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงถ้อยคำมาหลายครั้ง จากเดิมที่ใช้คำว่า "ประณาม" ต่อการที่รัสเซียรุกรานยูเครน จนมาเป็น "ตำหนิอย่างรุนแรงที่สุด"
 อย่างไรก็ดี มติดังกล่าวไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายแต่อย่างใด

ด้านทูตรัสเซียอ้างว่ารัฐบาลได้ปฏิบัติตามมาตรา 51 ตามกฎบัตรของสหประชาชาติเพื่อป้องกันตนเอง แต่ชาติสมาชิกจากยุโรปยืนยันว่ารัสเซียได้ละเมิดมาตรา 2 ที่ระบุห้ามชาติสมาชิกใช้กำลังทหารเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์

นายแอนโตนิโอ กูเตียเรส เลขาธิการยูเอ็น กล่าวว่า สารจากยูเอ็นเอสซีครั้งนี้ชัดเจนว่า จะต้องยุติความใช้ความรุนแรงในยูเครนและเปิดทางให้มีการเจรจาและการทูตตอนนี้

ด้านสหภาพยุโรป(อียู) ซึ่งอย่างหนักเพื่อรวมเสียงประเทศสมาชิกทั้ง 27 ประเทศ รวมทั้งโน้มน้าวประเทศอื่นๆ เพื่อลงคะแนนต่อต้านรัสเซีย

"โอลาฟ สคูก" ทูตอียูประจำสหประชาชาติ ระบุว่า รัฐบาลรัสเซียจะถูกโดดเดี่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ทั่วโลกต้องการให้รัสเซียยุติการคุกคาม ถอนกองกำลัง และปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติ

ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ทวีตข้อความยินดีต่อมติดังกล่าว พร้อมทั้งขอบคุณประเทศที่ลงคะแนนสนับสนุนยูเครน และกล่าวว่า ประเทศเหล่านี้ “เลือกข้างที่ถูกต้องในประวัติศาสตร์”แล้ว