อังกฤษเดินตามรอยสหรัฐประกาศเลิกซื้อน้ำมันรัสเซีย
อังกฤษประกาศห้ามการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ขณะที่ชาติในสหภาพยุโรป (อียู) อื่นๆ กำลังพิจารณาว่าจะยุติการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติของรัสเซียอย่างไร เพื่อตอบโต้การรุกรานยูเครนของรัสเซีย
นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศว่า อังกฤษจะยกเลิกการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียภายในสิ้นปีนี้ และยอมรับว่าการดำเนินการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบกับรัสเซียทันที แต่จะเป็นการเพิ่มแรงกดดันจากสิ่งที่เราได้เห็นในรัสเซียแล้ว อย่างลืมกว่าผลกระทบจากการคว่ำบาตรที่อังกฤษเป็นผู้นำจะมีความรุนแรงอย่างยิ่ง
อังกฤษนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย 6% แต่อียูพึ่งพาพลังงานของรัสเซียมากกว่ามาก ดังนั้นข้อเสนอเรื่องการคว่ำบาตรด้านพลังงานของสหรัฐและอังกฤษจึงไม่ได้รับการตอบสนองในทันทีจากอียู
อย่างไรก็ดี คณะกรรมาธิการยุโรป ระบุว่า จะหันไปใช้พลังงานทางเลือกและเพิ่มการใช้พลังงานสะอาดให้เร็วขึ้น เพื่อทดแทนการขาดแคลน โดยมีเป้าหมายให้ยุโรปลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิลของรัสเซียก่อนปี 2573
การห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียของนายกรัฐมนตรีอังกฤษมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศในวันอังคาร(8มี.ค.)ว่า สหรัฐจะคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียเพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน
“เราจะห้ามการนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากรัสเซีย ซึ่งหมายความว่ารัสเซียจะไม่สามารถส่งน้ำมันมายังท่าเรือสหรัฐอีกต่อไป” ปธน.ไบเดนกล่าวในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวในวันนี้
ปธน.ไบเดนคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นต่อไป อันเป็นผลจากมาตรการดังกล่าว แต่เขาให้สัญญาว่าจะดำเนินการทุกอย่างเพื่อลดผลกระทบต่อชาวอเมริกัน
นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนยังเตือนบริษัทน้ำมันของสหรัฐอย่าได้ฉวยโอกาสทำกำไรจากการโก่งราคาน้ำมัน
ทั้งนี้ สหรัฐนำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันเฉลี่ยมากกว่า 20.4 ล้านบาร์เรล/เดือนจากรัสเซียในปีที่แล้ว