ดาวโจนส์เพิ่มขึ้นในกรอบแคบ 94 จุดเหตุกังวลเศรษฐกิจถดถอย

ดาวโจนส์เพิ่มขึ้นในกรอบแคบ 94  จุดเหตุกังวลเศรษฐกิจถดถอย

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันจันทร์ (28มี.ค.)เพิ่มขึ้นในกรอบแคบแค่ 94 จุด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve ในวันนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 94.65 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 34,955.89 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 32.46 จุด หรือ 0.71% ปิดที่ 4,575.52 จุด ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 185.60 จุด หรือ 1.31%  ปิดที่ 14,354.94 จุด

หุ้นพลังงานดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ตามการทรุดตัวของราคาน้ำมัน หลังจีนประกาศล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านการเงิน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงเช่นกัน ตามการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ

การซื้อขายในตลาดได้รับผลกระทบ หลังตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve ในวันนี้ ซึ่งเป็นภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่สูงกว่าพันธบัตรระยะยาว โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 5 ปี อยู่สูงกว่าพันธบัตรอายุ 30 ปีเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 5 ปีพุ่งขึ้นสู่ระดับ 2.6361% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.6004%

ก่อนหน้านี้ เหตุการณ์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 5 ปีพุ่งขึ้นสูงกว่าพันธบัตรอายุ 30 ปีได้เกิดขึ้นในปี 2549 ก่อนที่จะเกิดวิกฤตการเงินทั่วโลกในอีกเพียงไม่กี่ปีถัดมา

อย่างไรก็ดี ล่าสุด อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 5 ปีร่วงลงสู่ระดับ 2.546% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.567% ซึ่งถือเป็นการยุติภาวะ inverted yield curve ในวันนี้

ที่ผ่านมา ภาวะ inverted yield curve มักเกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนพากันเทขายพันธบัตรระยะสั้น และเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในระยะสั้น

นักวิเคราะห์ระบุว่า นักลงทุนกำลังมีความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ท่ามกลางเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น หลังรัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนในเดือนที่แล้ว

ตลาดจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 4/2564 ของสหรัฐในวันพุธนี้ รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์

นักลงทุนยังคงเกาะติดการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะเจรจาแบบพบหน้ากันที่ตุรกีในวันพรุ่งนี้