ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสร่วง 1.01% หลังไออีเอไร้ข้อสรุปสกัดราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันศุกร์ (1เม.ย.)ปรับตัวลง 1.01% หลังจากที่สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) ไม่สามารถหาข้อสรุปในการออกมาตรการสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นในขณะนี้
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ปรับตัวลง 1.01% ปิดที่ราคา 99.27 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 0.3% ปิดที่ราคา 104.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
ไออีเอ จัดการประชุมฉุกเฉินในวันนี้เพื่อหารือแนวทางในการสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันที่จะมีการระบายออกจากคลังสำรองของประเทศสมาชิก รวมทั้งกำหนดเวลาในการดำเนินการดังกล่าว ขณะที่คาดว่าไออีเอจะทำการหารือต่อไปในสัปดาห์หน้า
ก่อนหน้านี้ ไออีเอเคยมีมติเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ในการระบายน้ำมันจำนวน 60 ล้านบาร์เรลออกจากคลังสำรองเพื่อสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นในตลาด
ทั้งนี้ ไออีเอ ประกอบด้วยสมาชิก 31 ประเทศ โดยสมาชิกรายใหญ่ได้แก่ สหรัฐ สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส แคนาดา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงวานนี้ว่า สหรัฐจะระบายน้ำมันในคลังสำรองเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน และบรรเทาภาวะขาดแคลนพลังงานในสหรัฐ หลังรัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน
ทั้งนี้ สหรัฐจะระบายน้ำมันจำนวน 180 ล้านบาร์เรลออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) โดยจะมีการระบายน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรล/วันเป็นเวลา 6 เดือน
การระบายน้ำมันจากคลังสำรองดังกล่าวนับเป็นครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 6 เดือน และครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.