ทั่วโลกเรียกร้องเพิ่มโทษรัสเซียก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน

ทั่วโลกเรียกร้องเพิ่มโทษรัสเซียก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน

เหล่าผู้นำทั่วโลก นำโดยสหรัฐและอังกฤษ เรียกร้องให้ลงโทษรัสเซียเพิ่มเติม หลังภาพศพชาวยูเครนนอนเกลื่อนกลาดตามท้องถนนเมืองบูชา ชานกรุงเคียฟถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก

นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ แถลงประณามรัสเซียที่เพิ่งถอยทัพออกจากบริเวณรอบๆ กรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ด้วยถ้อยคำอันรุนแรงในวันอาทิตย์(3มี.ค.) หลังมีรายงานข่าวที่เผยแพร่ภาพของศพผู้คนเกลื่อนกลาดทั่วท้องถนน

นายบลิงเคน ให้สัมภาษณ์รายการ State of the Union ทางสถานีข่าวซีเอ็นเอ็น ว่า รัสเซียได้กระทำการอันโหดร้ายป่าเถือนผ่านการรุกรานยูเครน หลังทั่วโลกได้เห็นภาพศพชาวยูเครนนอนเกลื่อนกลาดตามท้องถนนของเมืองบูชา ที่อยู่นอกชานกรุงเคียฟ ซึ่งเป็นสิ่งที่ “เราไม่สามารถรู้สึกชินชา หรือทำเหมือนเป็นเรื่องปกติได้เลย”

รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ระบุด้วยว่า สหรัฐ จะบันทึกข้อมูลอาชญกรรมสงครามที่รัสเซียก่อขึ้นต่อไป แม้ว่า ยูเครนจะออกมาอ้างว่า กองกำลังของตนสามารถยึดคืนพื้นที่ทางตอนเหนือของภาคกลาง ซึ่งอยู่รอบๆ เมืองหลวงของประเทศได้แล้วก็ตาม

รายงานข่าวระบุว่า กองทัพรัสเซียได้ถอนกำลังออกจากอาณาเขตกรุงเคียฟ เพื่อระดมพลโจมตีเมืองต่างๆ ทางภาคใต้ของยูเครน ที่ตั้งอยู่ตามแนวทะเลดำและที่อยู่ในพื้นที่แคว้นดอนบาสส์

ด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ให้สัมภาษณ์รายการ Face the Nation ทางสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ของสหรัฐในวันอาทิตย์ว่า ภาพศพผู้คนบนถนนของยูเครนแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สงครามครั้งนี้ได้นำมาสู่ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์”  พร้อมระบุว่า ในเวลานี้ ยูเครนกำลังถูกกองกำลังรัสเซียทำลายล้างและกำจัดถอนรากถอนโคน

คำกล่าวของประธานาธิบดีเซเลนสกี สอดคล้องกับคำพูดของวิตาลิ คลิทช์โค นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนที่ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ บิลด์ ของเยอรมนี ว่า มีคำๆเดียวที่จะเรียกทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่เมืองบูชาและพื้นที่ชานเมืองของกรุงเคียฟได้คือ "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” พร้อมระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย คือผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ทั้งหมด

ขณะที่ ชาลส์ มิเชล ประธานสภายุโรปทวีตข้อความในวันอาทิตย์ตามเวลาในยุโรปว่า กรุงมอสโกจะเผชิญกับการลงโทษเพิ่มเติมจากอียูพร้อมระบุว่ารู้สึกช็อกที่ได้เห็นภาพความโหดร้ายป่าเถื่อนหลอนตา ที่เกิดขึ้นจากเงื้อมมือของกองทัพรัสเซียในพื้นที่แคว้นอิสระของเคียฟ

ส่วน ลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ กล่าวว่า รัฐบาลกรุงลอนดอนได้เห็นหลักฐานที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับการกระทำอันน่ากลัวสยดสยองของกองกำลังที่เข้ารุกราน ตามเมืองต่างๆ เช่น เออร์พิน และ บูชา

นายกเทศมนตรีเมืองบูชา อานาโตลี เฟโดรุค กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า พลเรือนในเมืองราว 300 คนถูกยิงในช่วงที่กองกำลังรัสเซียเข้ายึดครองพื้นที่ และมีศพคนราว 280 ศพ ถูกฝังรวมกัน ส่วนที่เหลือนั้นถูกทิ้งไว้ตามท้องถนน

กลุ่มฮิวแมน ไรทส์ วอทช์ เปิดเผยในวันอาทิตย์ว่า องค์กรได้ทำการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการที่กองทัพรัสเซียละเมิดกฎหมายสงครามหลายต่อหลายครั้ง ในพื้นที่เมือง เชิร์นนิฮีฟ คาร์คีฟ และกรุงเคียฟของยูเครน

นอกจากนั้น รายงานขององค์กรแห่งนี้ยังมีรายละเอียดคำกล่าวหาต่อกองทัพรัสเซียว่าทำการข่มขืน และทำการสังหารแบบรวดรัดที่ส่งผลให้เหยื่อ 7 รายเสียชีวิต รวมทั้งทำการคุมคามและใช้ความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ ต่อพลเรือนด้วย