ยูเครนขอบคุณยูเอ็น ถอดถอนรัสเซีย พ้นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน
นายดมิโทร คูเลบา รมว.ต่างประเทศยูเครน แสดงความยินดีต่อการที่สหประชาชาติมีมติถอดถอนรัสเซียออกจากการเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนในวันพฤหัสบดี(7เม.ย.)
"อาชญากรสงครามจะต้องไม่มีที่ยืนในหน่วยงานของสหประชาชาติที่มีเป้าหมายเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชน ผมขอขอบคุณสมาชิกที่ได้ให้การสนับสนุนญัตติดังกล่าว และเลือกที่จะยืนหยัดอยู่ในฝั่งที่ถูกต้องของประวัติศาสตร์" นายคูเลบาระบุ
ทั้งนี้ ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) มีมติถอดถอนรัสเซียออกจากการเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนในวันนี้ เพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน ซึ่งถือเป็น "การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงและเป็นระบบ"
สมาชิกยูเอ็นจีเอ จำนวน 93 ประเทศจากทั้งหมด 193 ประเทศ ลงมติเห็นชอบต่อญัตติดังกล่าว ขณะที่ 24 ประเทศลงมติไม่เห็นชอบ ส่วน 58 ประเทศงดออกเสียง และ 18 ประเทศไม่เข้าร่วมในการลงมติ
มติดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ถูกขับออกจากคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน ขณะที่ก่อนหน้านี้ ลิเบียเคยถูกระงับการเป็นสมาชิกในปี 2554 เนื่องจากรัฐบาลใช้ความรุนแรงปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงที่ออกมาชุมนุมขับไล่พันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี อดีตผู้นำลิเบีย
ด้านนายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน แสดงความเสียใจต่อการที่รัสเซียถูกขับออกจากคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนในวันนี้
"เรามีความเสียใจต่อเรื่องดังกล่าว และเราจะยังคงปกป้องผลประโยชน์ของเราในทุกวิถีทาง" นายเพสคอฟ กล่าว
โฆษกทำเนียบเครมลิน ยืนยันว่า มีการจัดฉากการสังหารหมู่ชาวยูเครนในเมืองบูชาเพื่อป้ายสีกองทัพรัสเซีย
"มีการพบร่างผู้เสียชีวิตจำนวนมากหลังจากที่รัสเซียถอนกำลังออกไปแล้ว และขณะนี้เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่มีแต่ข่าวปลอมและเรื่องโกหกทุกวัน" นายเพสคอฟ กล่าว
ด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า เหตุการณ์ที่กองทัพรัสเซียได้สังหารโหดต่อพลเรือนยูเครนในเมืองบูชา ได้ทำให้การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนประสบความยากลำบากมากขึ้น