ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเพิ่มขึ้น 1.26 ดอลล์
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันจันทร์(18เม.ย.)ปรับตัวขึ้น 1.26 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันตึงตัวอันเนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.26 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.21 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.46 ดอลลาร์ ปิดที่ 113.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
การผลิตน้ำมันของรัสเซียยังคงปรับตัวลง โดยทรุดตัวลง 7.5% ในช่วงกลางเดือนเม.ย.เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. ขณะที่สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) เตือนว่ามาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียจะส่งผลให้รัสเซียไม่สามารถส่งออกน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันอื่นๆ รวม 3 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพ.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นต่อไป โดยได้แรงหนุนจากการที่จีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในเซี่ยงไฮ้ และจากคำเตือนของนายโมฮัมหมัด บาร์คินโด เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่มีการบังคับใช้ในปัจจุบัน และที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะทำให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำมันอย่างรุนแรง และไม่มีทางที่จะทดแทนปริมาณน้ำมันที่ขาดหายไป
ทั้งนี้ โอเปกและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 432,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ค. แม้ว่าสหรัฐและหลายชาติที่นำเข้าน้ำมันต่างเรียกร้องให้โอเปกพลัสเพิ่มการผลิตให้มากขึ้นกว่าในระดับปัจจุบัน ขณะที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือระดับ 139 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.
สหภาพยุโรป (อียู) มีมติคว่ำบาตรการนำเข้าถ่านหินจากรัสเซีย และมีแนวโน้มว่าจะคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซียในไม่ช้า ตามการดำเนินการของสหรัฐ แคนาดา และออสเตรเลีย เพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียโจมตียูเครน